ข่าวสาร

แนะนำเครื่องปั่นไฟ ITC POWER ที่เหมาะกับงานอีเวนต์
ใกล้เข้าสู่ช่วงสุดท้ายของปี ซึ่งเป็นช่วงเวลาของการเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ และช่วงนี้ยังมีงานอีเวนต์เกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นงานดนตรีในสวน งานหนังกลางแปลง และการขายสินค้าต่าง ๆ ซึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ เครื่องปั่นไฟ ที่จะช่วยส่งพลังงานไปให้กับร้านค้าต่าง ๆ และช่วยสร้างความสดใสให้กับงาน  เครื่องปั่นไฟ ITC Power เป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้าคุณภาพสูงจากประเทศจีน มีทั้งเครื่องปั่นไฟขนาด 5kVA ไปจนถึง 34kVA และมีทั้งเครื่องยนต์แบบดีเซลและเครื่องยนต์เบนซิน ราคาไม่แพง จึงเหมาะสำหรับการใช้งานตามอีเวนต์ต่าง ๆ แต่จะมีวิธีเลือกอย่างไร และมีรุ่นไหนแนะนำบ้าง ไปดูกันเลย วิธีการเลือกเครื่องปั่นไฟสำหรับงานอีเวนต์นอกสถานที่ การเลือกเครื่องปั่นไฟสำหรับงานอีเวนต์นอกสถานที่ ส่วนใหญ่เจ้าของงานนิยมเช่ามากกว่าการซื้อขาด เว้นแต่จะเป็นบริษัทที่จัดงานอีเวนต์เป็นประจำทุกสัปดาห์ หรือเป็นบริษัทที่ให้เช่าอุปกรณ์จัดงานด้วย แต่ในการเลือกเครื่องปั่นไฟที่ตอบโจทย์กับลักษณะงาน ควรพิจารณาจากปัจจัยดังต่อไปนี้ ปริมาณไฟที่ต้องการจะใช้ การเลือกจำนวนไฟหรือจำนวนวัตต์ของเครื่องปั่นไฟ ซึ่งก่อนหน้าที่เราจะคำนวณตัวเลข เราจะต้องรู้ก่อนว่า เราต้องการนำเครื่องปั่นไฟมาใช้เป็นไฟหลัก เพื่อแจกจ่ายให้กับคนทั้งงาน หรือว่าใช้เป็นไฟสำรองเท่านั้น แต่หากว่าต้องการใช้เป็นไฟหลักของงาน ควรจะมีเครื่องปั่นไฟสำรองไว้อีกหนึ่งเครื่อง เพื่อสลับกันใช้งาน ไม่ให้ใช้งานต่อเนื่องกันมากเกินไป  จากนั้นเราควรจะคำนวณจำนวนไฟที่ต้องการจะใช้งาน ซึ่งหากว่าเป็นงานอีเวนต์แสดงสินค้า หรือขายของ ควรจะให้ร้านค้าต่าง ๆ คำนวณปริมาณไฟที่ต้องการ หากร้านใดต้องการใช้ไฟมากจะต้องแจ้งล่วงหน้า เพื่อที่จะคำนวณปริมาณไฟได้อย่างถูกต้อง  สิ่งที่เราควรรู้ในการคำนวณปริมาณไฟก็คือ หากว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีมอเตอร์ อย่างเครื่องปรับอากาศ ปั๊มน้ำ อาจจะต้องคูณจำนวนวัตต์ไปอีก 4-5 เท่า เพราะต้องใช้ไฟในการสตาร์ทมากกว่าปกตินั่นเอง  เลือกเครื่องปั่นไฟประเภทไหนดี เครื่องปั่นไฟ หรือเครื่องกำเนิดไฟฟ้า มีหลากหลายประเภท โดยมากจะแบ่งตามประเภทของเชื้อเพลิงที่ใช้ นั่นก็คือ เครื่องปั่นไฟแบบใช้น้ำมันเบนซิน และเครื่องปั่นไฟแบบใช้น้ำมันดีเซล เครื่องปั่นไฟน้ำมันเบนซินมักจะใช้สำหรับเครื่องยนต์ขนาดเล็ก พกพาง่าย มีความคล่องตัวสูง สามารถนำไปใช้งานนอกสถานที่ได้ง่าย แต่จ่ายไฟได้ไม่มากเท่ากับเครื่องปั่นไฟที่ใช้น้ำมันดีเซล  เครื่องปั่นไฟน้ำมันดีเซล จะเป็นเครื่องที่มีขนาดใหญ่ ใช้งานได้ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ใช้งานหนักได้ทุกวัน ราคาไม่แพง เหมาะแก่การใช้ในงานอีเวนต์ขนาดใหญ่ หรือการติดตั้งถาวร  เก็บเสียงดีหรือไม่? คงจะไม่ดีแน่ หากว่าในงานอีเวนต์ดนตรี คอนเสิร์ต หรืองานแสดงสินค้ามีเสียงของเครื่องปั่นไฟดังอยู่ตลอดเวลา เราจึงควรพิจารณาเรื่องเสียงของเครื่องปั่นไฟด้วยว่า มีเสียงที่ดังเกินไปหรือไม่ เพื่อที่จะไม่ทำลายบรรยากาศของงาน เครื่องปั่นไฟ ITC POWER รุ่นไหนเหมาะกับงานอีเวนต์ ใครที่กำลังมองหาเครื่องปั่นไฟราคาไม่แพง เราขอแนะนำแบรนด์ ITC POWER ซึ่งมีเครื่องปั่นไฟรุ่นที่เหมาะสำหรับงานอีเวนต์ 3 รุ่น ดังต่อไปนี้  รุ่น DG12000XSE ใครที่กำลังมองหาเครื่องปั่นไฟที่ขนาดไม่ใหญ่มาก สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย เราขอแนะนำเครื่องปั่นไฟ ITC POWER รุ่น DG12000XSE 10kVA/kW ซึ่งเป็นเครื่องปั่นไฟดีเซลขนาดกลาง ไฟหนึ่งเฟส 230V 50Hz PF1 3000rpm. เครื่องยนต์  ITC POWER รุ่น EV80 ได รุ่น KT-10 และชุดควบคุม COMAP รุ่น NANO PLUS ขนาด 136x65x98 ซม. น้ำหนัก 318 กิโลกรัม มีล้อเลื่อนในตัว สามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างสะดวก  เครื่องปั่นไฟรุ่นนี้เหมาะสำหรับงานอีเวนต์เล็ก ๆ อย่างซุ้มอาหาร หรืองานที่มีบูทสินค้าจำนวนไม่มาก หรืองานที่จัดในช่วงกลางวัน ที่ต้องการใช้ไฟฟ้าปริมาณไม่เยอะมาก โดยสามารถจ่ายไฟได้ต่อเนื่อง 7 ชั่วโมง  รุ่น DG11KSEm เครื่องปั่นไฟ ITC Power รุ่น DG11KSEm ขนาด 10kVA/kW เป็นเครื่องปั่นไฟ ไฟหนึ่งเฟส 230V 50Hz PF1 1500rpm เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 4 จังหวะ ขนาด 195x90x112 ซม. น้ำหนัก 700 กิโลกรัม ระบายความร้อนด้วยเครื่องยนต์หัวฉีดตรง 1500rpm. เสียงเงียบ รองรับระบบ Auto Start (ATS)  นอกจากนี้ยังสามารถทำงานต่อเนื่องได้นาน 8 ชั่วโมง มีท่อไอเสียขนาดใหญ่ และมีหลังคากันฝน สามารถใช้งาน Outdoor ได้อย่างปลอดภัย รุ่นนี้มีถังน้ำมันขนาดใหญ่ นอกจากจะนำไปใช้ในงานอีเวนต์ได้แล้วยังสามารถใช้ในงานอุตสาหกรรมได้อีกด้วย รุ่น DG13KSEm เครื่องปั่นไฟ ITC Power รุ่น DG13KSEm เป็นเครื่องปั่นไฟเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 4 จังหวะ ขนาด 13kVA /kW และมีขนาดความกว้างยาวที่ 195x90x112 ซม. น้ำหนัก 700 กิโลกรัม ใช้ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ รองรับระบบ Auto Start (ATS) เมื่อไฟดับเครื่องจะทำงานอัตโนมัติ ซึ่งสามารถนำไปใช้เป็นเครื่องจ่ายไฟสำรอง มีคุณสมบัติปิดตัวเองได้แบบอัตโนมัติ เมื่อไฟฟ้าทำงานเป็นปกติ  รุ่นนี้สตาร์ทด้วยไฟฟ้า และสามารถทำงานต่อเนื่องได้นาน 8 ชั่วโมง มีหลังคากันฝน สามารถใช้นำไปใช้งานนอกสถานที่ได้อย่างปลอดภัย  สำหรับใครที่กำลังมองหาเครื่องปั่นไฟสำหรับงานอีเวนต์ ไม่ว่าขนาดเล็กหรือใหญ่ เราขอแนะนำเครื่องปั่นไฟ ITC Power คุณภาพดี ราคาถูก นอกจากนี้เรายังมีเครื่องปั่นไฟหลากหลายแบรนด์ให้เลือกอีกมากมาย เรามีทีมผู้เชี่ยวชาญ มากประสบการณ์เกี่ยวกับเครื่องปั่นไฟ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นไปจนจบการติดตั้งเครื่องปั่นไฟ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร. 097-146-3594
เครื่องปั่นไฟ Atlas Copco P3500i สำหรับแคมป์ปิ้ง
ถึงจะไปตั้งแคมป์กลางป่า ก็ไม่จำเป็นต้องขาดไฟฟ้าไว้ใช้งาน ใครที่เป็นสายตั้งแคมป์ อยากเดินเข้าป่า แต่ยังอยากมีไฟเอาไว้ชาร์จแบต หรือใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทอื่น ๆ ขอแนะนำให้พกเครื่องปั่นไฟ Atlas Copco P3500i เครื่องเล็กติดไปด้วย เพราะเหมาะแก่การพกพา แถมจ่ายไฟได้มาก เพราะหากเทียบแล้วคุณสามารถใช้ปั่นไฟและจ่ายให้กับเครื่องปรับอากาศขนาด 15,000 BTU ได้อย่างสบาย เพิ่มความสะดวกให้กับเราได้ในวันพักผ่อน อีกทั้งยังปลอดภัย และตอบโจทย์กับการใช้สำหรับให้แสงสว่าง การชาร์จแบตมือถือ หรือคอมพิวเตอร์อีกด้วย วิธีเลือกเครื่องปั่นไฟสำหรับแคมป์ปิ้งต้องดูอะไรบ้าง? ก่อนที่เราจะพาไปรีวิวเครื่องปั่นไฟ Atlas Copco P3500i ขอชวนทุกคนไปดูถึงวิธีการเลือกเครื่องปั่นไฟสำหรับสายแคมป์ปิ้งกันก่อนว่า ควรพิจารณาจากเรื่องอะไรบ้าง  น้ำหนักมาก ขนาดใหญ่หรือไม่ เวลาเราเดินทางไปตั้งแคมป์ เพื่อที่จะได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด นอกจากการเตรียมตัวแล้ว เรายังต้องเตรียมข้าวของไปด้วยมากมาย ไม่ใช่เพียงแค่เสื้อผ้าเท่านั้น แต่ยังมีอุปกรณ์ตั้งแคมป์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเต็นท์ ผ้าใบ ถุงนอน เบาะรองนอน โต๊ะ เก้าอี้ เตา อุปกรณ์ทำอาหาร โคมไฟ ตะเกียง ไฟฉาย มีดสวิส แถมบางคนยังพกอุปกรณ์ไปชงกาแฟอีกด้วย  ดังนั้น เราจึงต้องเลือกเครื่องปั่นไฟที่มีน้ำหนักไม่มาก รวมถึงขนาดไม่ใหญ่ สามารถพกพาได้สะดวก เพราะแม้ว่าเราจะขับรถไปจอดใกล้บริเวณที่ตั้งแคมป์ แต่การขนของหลายรอบก็ไม่สนุกเท่าไร เราจึงควรเลือกที่ขนาดพอดี ๆ จะดีกว่า  กำลังไฟเพียงพอต่อความต้องการหรือเปล่า ลองลิสต์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่เราต้องการใช้ ไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้าแสงสว่าง คอมพิวเตอร์ พัดลม ที่ชาร์จแบตไฟฟ้า และลองคำนวณอัตราไฟฟ้าที่เราต้องใช้ จากนั้นค่อยเลือกจำนวนวัตต์ว่าต้องใช้เท่าไรถึงจะเพียงพอต่อความต้องการ  อัตราการกินน้ำมัน ใช้ปริมาณน้ำมันมากแค่ไหน การเลือกเครื่องปั่นไฟสำหรับตั้งแคมป์จะต้องคำนึงถึงอัตราการกินน้ำมันเชื้อเพลิงประกอบกันด้วย ในกรณีที่เครื่องปั่นไฟใช้พลังงานจากน้ำมัน เราจะต้องดูด้วยว่ามีอัตราการกินน้ำมันแค่ไหน และจะต้องเตรียมน้ำมันเชื้อเพลิงไปเท่าไหร่ และหากว่าเราเลือกเครื่องปั่นไฟที่กินน้ำมันน้อย เราก็ไม่จำเป็นจะต้องเตรียมน้ำมันเชื้อเพลิงไปมากเช่นกัน เสียงดังหรือไม่ การเดินทางไปตั้งแคมป์ เราต้องการที่จะสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นช่วงกลางวันหรือกลางคืนควรจะเป็นเสียงธรรมชาติ เราจึงควรเลือกเครื่องปั่นไฟที่เงียบ เสียงไม่ดังมาก ไม่รบกวนธรรมชาติ สัตว์ป่า และผู้อื่น  นอกจากเรื่องเสียงแล้ว เราควรจะคำนึงถึงปริมาณควัน หรือก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ผลิตออกมาอีกด้วย  รีวิวเครื่องปั่นไฟ Atlas Copso P3500i เครื่องปั่นไฟที่เราจะมาแนะนำในวันนี้ เป็นเครื่องปั่นไฟแบรนด์ Atlas Copco ที่นำเข้าจากประเทศสวีเดน เป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยม และความน่าเชื่อถือ ก่อตั้งเมื่อ ค.ศ. 1873 ซึ่งมีการพัฒนาและวางขายเครื่องปั่นไฟหลากหลายขนาด ตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ สามารถเลือกได้ตามต้องการ  สำหรับเครื่องปั่นไฟสำหรับสายแคมป์ปิ้ง ขอแนะนำเครื่องปั่นไฟ Atlas Copso P3500i ซึ่งเป็นเครื่องปั่นไฟขนาดเล็ก และใช้เทคโนโลยีอินเวอร์เตอร์ จึงเป็นเครื่องปั่นไฟอีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับความนิยมในกลุ่มที่ชอบเดินทางท่องเที่ยว และตั้งแคมป์ตามสถานที่ธรรมชาติต่าง ๆ  เครื่องขนาดพกพา จ่ายไฟได้มาก กินไฟต่ำ เครื่องปั่นไฟ Altlas Copso P3500i เป็นเครื่องขนาด 3.3kW (3300วัตต์) 230V 50Hz 3000rpm.ตัวเครื่องกว้าง 40 ซม. ยาว 58 ซม. สูง 51 ซม. น้ำหนัก 45 กิโลกรัม มีล้อช่วยให้ขนย้ายได้สะดวก และมีตัวล็อกล้อที่ช่วยป้องกันการเคลื่อนที่เพื่อความปลอดภัย  ใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง เครื่องปั่นไฟ Altlas Copso P3500i เป็นเครื่องปั่นไฟขนาดใหญ่ที่สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องยาวนานถึง 10 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังสามารถต่อ Pararell พร้อมกัน 2 เครื่อง ทำให้สามารถจ่ายไฟได้รวมกัน 6.6 kW และยังมีเครื่องมือวัดเป็นค่าโวลต์ และมิเตอร์นับชั่วโมง ในกรณีที่ระดับน้ำมันเชื้อเพลิงต่ำกว่ามาตรฐานจะมีสัญญาณเตือน  เครื่องปั่นไฟอินเวอร์เตอร์ ที่ใช้น้ำมันต่ำ เครื่องปั่นไฟ Altlas Copso P3500i เป็นเครื่องปั่นไฟที่ใช้เทคโนโลยีอินเวอร์เตอร์ จึงประหยัดพลังงาน กินน้ำมันน้อย และมีถังเติมน้ำมันขนาดใหญ่ จ่ายไฟได้เสถียร พร้อมระบบการควบคุม RPM ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้เชื้อเพลิง  เครื่องใช้ไฟฟ้าที่เหมาะสม ด้วยเทคโนโลยีอินเวอร์เตอร์ที่ช่วยประหยัดพลังงาน และใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง จึงเหมาะมากสำหรับสายตั้งแคมป์ ไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้าส่องสว่าง ที่พกไปเครื่องเดียวก็สว่างกันทั้งคณะ หรือใครอยากจะพกคอมพิวเตอร์ Laptop ไปทำงาน ฟังเพลง ชาร์จโทรศัพท์มือถือ ก็สามารถจ่ายไฟได้แบบสบาย ๆ  นอกจากนี้ หากว่าใครอยากจะนำไปใช้งานอื่น ๆ ที่ไม่ใช่การตั้งแคมป์ก็สามารถทำได้เช่นกัน เพราะสามารถจ่ายไฟได้ในปริมาณมาก เพราะสามารถจ่ายไฟให้กับเครื่องปรับอากาศขนาด 15000 BTU ได้เลย  เสียงเบา ไม่รบกวนธรรมชาติ อีกเรื่องหนึ่งที่ต้องขอแนะนำ หากว่าใครกำลังมองหาเครื่องปั่นไฟที่เสียงเงียบ ไม่รบกวนธรรมชาติ เครื่องปั่นไฟ Altlas Copso P3500i ก็มาพร้อมกับระบบป้องกันเสียงรบกวน โดยระดับเสียงที่สูงที่สุดจะอยู่ที่ 88 เดซิเบลเท่านั้น จึงเหมาะกับการนำไปตั้งแคมป์กลางป่าอย่างมาก  สายแคมป์ปิ้งคนไหนที่ต้องการซื้อเครื่องปั่นไฟสำหรับการตั้งแคมป์ เราขอแนะนำเครื่องปั่นไฟ Altlas Copso รุ่น P3500i คุณภาพเยี่ยม นำเข้าจากประเทศสวีเดน นอกจากนี้ที่ S.E.A. Power Gent เรายังมีเครื่องปั่นไฟหลากหลายแบรนด์ให้เลือกอีกมากมาย เรามีทีมผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์เกี่ยวกับเครื่องปั่นไฟ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นจนจบการติดตั้งเครื่องปั่นไฟ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร. 097-146-3594
ช่างมืออาชีพเผย ทำไมเครื่องปั่นไฟ HONDA ถึงเหมาะกับการใช้งาน?
เหตุการณ์ไฟฟ้าดับ หรือการไปในสถานที่ที่ห่างไกลอย่างในชนบทที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ เครื่องปั่นไฟถือเป็นเครื่องมือชิ้นสำคัญ ที่จะช่วยให้การใช้ชีวิตของทุกคนมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ทั้งเพื่อช่วยให้มีแสงสว่างในยามค่ำคืน รวมถึงยังสามารถใช้จ่ายกระแสไฟให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าให้ทำงานได้เป็นอย่างราบรื่น   หนึ่งในเครื่องปั่นไฟที่ได้รับการยอมรับจากช่างมืออาชีพก็คือ เครื่องปั่นไฟขนาดเล็กแบบพกพา ที่มีราคาคุ้มค่าจาก HONDA เราจะพาไปดูกันว่า เหตุผลใดที่เครื่องปั่นไฟจาก HONDA ถึงตอบโจทย์กับการใช้งาน และทำไมช่างมืออาชีพหลาย ๆ คนถึงเลือกใช้ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้อาจช่วยให้คุณสามารถเลือกซื้อเครื่องปั่นไฟขนาดเล็กเอาไว้ใช้งานได้อย่างคุ้มค่าก็เป็นได้    รวม 3 รุ่นเครื่องปั่นไฟยอดนิยมจาก HONDA ก่อนจะไปดูถึงเหตุผลที่ทำให้ช่างมืออาชีพแนะนำเครื่องปั่นไฟจากค่าย HONDA  เรามาทำความรู้จักกันก่อนว่า เครื่องปั่นไฟระบบอินเวอร์เตอร์ (Honda Generator) จากแบรนด์นี้ มีรุ่นใดบ้างที่ได้รับความนิยมแบบไม่มีตก พร้อมรายละเอียดสำคัญของตัวเครื่อง เครื่องปั่นไฟฟ้าเสียงเบา Honda EU10i สเปคเครื่องปั่นไฟฟ้าขนาดเล็กพกพารุ่นนี้มีความโดดเด่นในเรื่องของเสียงเบา เหมาะสำหรับการนำไปแคมป์ ด้วยคุณสมบัติที่เพียบพร้อมจึงทำให้ Honda EU10i เป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ ด้วยเทคโนโลยีอินเวอร์เตอร์ที่ให้พลังไฟคุณภาพสูง เหมาะสำหรับใช้งานกับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีความไวต่อแรงดันไฟ และต้องการกระแสไฟฟ้าที่คงที่ ไฮไลท์รายละเอียดเครื่องปั่นไฟ ค่าความผิดเพี้ยนของรูปคลื่นสูงสุดเพียง 2.5% ขนาดกะทัดรัด และมีน้ำหนักเบาเพียง 13 กิโลกรัม ทำงานเงียบ มีความดังเพียง 57 เดซิเบล ประหยัดพลังงาน ลดการสิ้นเปลืองน้ำมันลงถึง 20% เทคโนโลยีอินเวอร์เตอร์จากฮอนด้า ช่วยเพิ่มกำลังไฟได้มากถึง 2 เท่า ด้วยการพ่วงต่อแบบขนานกับเครื่องปั่นไฟรุ่นเดียวกัน เครื่องปั่นขนาดเล็กหิ้วได้ พกพาสะดวก Honda EU20i อีกหนึ่งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าระบบอินเวอร์เตอร์ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความเงียบ มาพร้อมกับขนาดที่พกพาง่าย สำหรับ Honda EU20i ยังเป็นเครื่องปั่นไฟที่มีราคาน่าคบหา สามารถใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าได้คงที่ เหมาะกับการนำไปใช้งานนอกสถานที่ เพราะด้วยความกะทัดรัดและมีน้ำหนักเพียง 20.8 กิโลกรัม แต่สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานถึง 3.4 ชั่วโมงสำหรับโหมดปกติ และนานถึง 10 ชั่วโมงใน Mode Eco Throttle ไฮไลท์รายละเอียดของเครื่องปั่นไฟ เครื่องยนต์รุ่น GX100 แบบ 4 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยอากาศ วาล์วเหนือลูกสูบ OHV สูบเดียว ประหยัดพลังงาน ลดการสิ้นเปลืองน้ำมันได้ถึง 20% ใช้ระบบดึงสตาร์ทแบบสปริงรั้งกลับ ทำงานเงียบ มีความดังเพียง 59 เดซิเบล ในระยะ 7 เมตร พกพาไม่ลำบากด้วยน้ำหนักเพียง 20.8 กิโลกรัม พร้อมล้อสำหรับลาก เครื่องปั่นไฟขนาดเล็กที่ให้กำลังไฟสูงต้อง Honda EU30iS Honda EU30iS เป็นอีกหนึ่งเครื่องปั่นไฟขนาดเล็กพกพาง่ายที่เหมาะกับการนำไปใช้ ด้วยกำลังไฟสำหรับใช้งานที่ให้สูงสุดถึง 3 กิโลวัตต์ มาพร้อมกับความสะดวกในการใช้งานด้วยขนาดที่เทียบเท่ากับกระเป๋าหิ้ว ทั้งยังมีล้อระบบเกียร์สำหรับเข็น 4 ล้อ จึงทำให้สามารถขนย้ายและพกพาได้ง่ายดาย ทั้งยังมีระบบการทำงานที่เงียบสงบ และใช้ได้ต่อเนื่องยาวนานตั้งแต่ 7 ชั่วโมงถึง 25 ชั่วโมง ไฮไลท์รายละเอียดของเครื่องปั่นไฟ มีความจุของกระบอกสูบถึง 196 cc และความจุถังเชื้อเพลิงมากถึง 13 ลิตร  ใช้งานต่อเนื่องได้อย่างยาวนานตั้งแต่ 7 – 25 ชั่วโมง  ใช้ระบบสตาร์ทไฟฟ้าด้วยกุญแจ มีความดังเพียง 58 เดซิเบล ในระยะ 7 เมตร ทำงานเงียบมาก ขนาดกำลังดี ภายใต้น้ำหนัก 61 กิโลกรัม เผยเหตุผล! ทำไมช่างมืออาชีพถึงแนะนำเครื่องปั่นไฟ HONDA? รู้ถึงรายละเอียดและจุดเด่นของเครื่องปั่นไฟรุ่นยอดนิยมจาก HONDA กันไปแล้ว และจะเห็นได้ว่า สเปคของเครื่องมีขนาดกะทัดรัด และง่ายต่อการพกพา ที่สำคัญมาพร้อมกับคุณสมบัติด้านกำลังไฟที่มีความเสถียร จึงตอบโจทย์ต่อการใช้งาน    ในทางกลับกัน ลองมาดูมุมมองจากช่างมืออาชีพ ถึงเหตุผลที่ทำให้ต้องแนะนำเครื่องปั่นไฟขนาดเล็กจาก HONDA ว่าทำไมต้องเลือกใช้จากแบรนด์นี้กัน คุณภาพของวัสดุ และมาตรฐานการใช้งานที่ตอบโจทย์ ในมุมมองของช่างมืออาชีพ การเลือกเครื่องปั่นไฟขนาดเล็กเพื่อการใช้งาน ควรดูจากมาตรฐานและคุณภาพของวัสดุที่ใช้ในการผลิต เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานได้อย่างครอบคลุม สำหรับเครื่องปั่นไฟจาก HONDA นั้น ได้มีการผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง มาตรฐานเดียวกับประเทศญี่ปุ่น ทั้งยังผ่านการคิดค้น ตลอดจนการออกแบบเพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างเหมาะสม  สเปคเครื่องและขนาดเหมาะสำหรับการพกพาอย่างแท้จริง จะเห็นได้ว่าเครื่องปั่นไฟขนาดเล็กของ HONDA ถูกออกแบบมาเพื่อพกพาได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของน้ำหนัก และการออกแบบตัวเครื่องให้มีล้อสำหรับลากและเคลื่อนย้าย ประกอบกับสเปคการทำงานของเครื่องที่ให้กำลังไฟสูง มีความเสถียร จึงเหมาะกับการนำไปใช้งานทั้งภายในและนอกบ้าน เป็นหนึ่งในเครื่องปั่นไฟขนาดเล็กที่มีราคาน่าคบหา เป็นที่รู้กันดีในแวดวงของช่างมืออาชีพถึงราคาของเครื่องปั่นไฟแบบพกพา ที่ทำงานด้วยระบบอินเวอร์เตอร์ที่พัฒนามาจากเครื่องเบนซิน ทำให้มีข้อดีในเรื่องของการกินน้ำมันที่น้อยกว่าเครื่องปั่นไฟแบบทั่วไป ทั้งยังช่วยลดมลพิษ และมีเสียงรบกวนที่ค่อนข้างต่ำ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้มีราคาที่สูงกว่าเครื่องกำเนิดไฟทั่ว ๆ ไป  แต่เครื่องปั่นไฟขนาดเล็กแบบพกพาจาก HONDA มีราคาที่เป็นมิตร ทั้งยังมีคุณสมบัติการใช้งานที่ครบเครื่อง ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีข้อกังขาใด ๆ ที่ช่างมืออาชีพต่างก็บอกต่อในเรื่องของการใช้งาน ตอบโจทย์ทุกกิจกรรมและธุรกิจนอกสถานที่ นอกจากการใช้งานภายในที่พักอาศัยแล้ว อีกหนึ่งจุดประสงค์ของการซื้อเครื่องกำเนิดไฟฟ้าแบบพกพา คือการตอบสนองด้านการใช้งาน เมื่อต้องอยู่ในพื้นที่ที่ไม่สามารถเชื่อมต่อกับกระแสไฟฟ้าได้ เช่น ร้านค้านอกสถานที่ งานอีเวนท์ การตั้งแคมป์ หนังกลางแปลง หรือแม้แต่งานวัด  สำหรับผู้ประกอบการท่านใดที่กำลังมองหาแหล่งซื้อเครื่องปั่นไฟขนาดเล็กแบบพกพาง่าย ที่มีราคาเป็นมิตร ภายใต้แบรนด์คุณภาพอย่าง HONDA ที่ S.E.A. Power Gent เราเป็นศูนย์รวมและจัดจำหน่ายเครื่องปั่นไฟแบรนด์คุณภาพ พร้อมดูแลทุกขั้นตอนการซื้อขายโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ที่พร้อมให้คำปรึกษา ตลอดจนบริการด้านการติดตั้งที่จะดูแลตั้งแต่ต้นจนจบ หากสนใจสามารถสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องปั่นไฟ HONDA เพิ่มเติมได้ที่โทร. 097-146-3594 หรืออีเมล puvakorn@seapowergent.com
ทำความรู้จักเครื่องปั่นไฟ Cummins
หากกล่าวถึงเครื่องปั่นไฟคุณภาพสูงที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง จากทั้งผู้ใช้งานทั่วไป และช่างผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายแวดวงอุตสาหกรรม เครื่องปั่นไฟ Cummins คือหนึ่งในชื่อที่ถูกเอ่ยถึงเป็นลำดับต้น ๆ ซึ่งนอกจากความน่าเชื่อถือของแบรนด์ ที่กำเนิดขึ้น ณ ประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อกว่าหนึ่งร้อยปีก่อนแล้ว ยังมีปัจจัยอีกหลายข้อที่ช่วยส่งเสริมความจริงข้อนี้ ลองมาหาคำตอบเพิ่มเติมกันว่า เครื่องกำเนิดไฟฟ้า Cummins ดีอย่างไร? และเหมาะกับอุตสาหกรรมประเภทใดบ้าง? และทำไมถึงได้รับความไว้วางใจไปทั่วประเทศมาอย่างยาวนาน ติดตามได้ในบทความนี้ เครื่องปั่นไฟ Cummins มีกลไกการทำงานอย่างไร? ประสิทธิภาพในการทำงานที่สูงจนได้รับความไว้วางใจจากคนทั่วประเทศของเครื่องปั่นไฟ Cummins เกิดขึ้นจากกลไกการทำงานภายในตัวเครื่องที่ดำเนินไปอย่างเป็นระบบ โดยหลักการทำงานที่มีส่วนสำคัญสามารถอธิบายได้ดังต่อไปนี้ สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าสำรองเข้าสู่วงจรในกรณีที่กระแสไฟฟ้าหลักดับหรือมีความขัดข้องบางประการ เพื่อให้เครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมดในบริเวณยังสามารถทำงานต่อไปได้ พลังงานของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า Cummins เกิดจากการเคลื่อนที่แบบหมุน บริเวณเครื่องยนต์ขยายไปยังส่วนประกอบหลักที่สองอย่างเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับ จากนั้นทำการแปลงพลังงานจลน์เป็นไฟฟ้า โดยใช้คุณสมบัติของการเหนี่ยวนำแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ทางกายภาพตามกฎการแปรผันสนามแม่เหล็ก ไฟฟ้ากระแสสลับที่ผลิตออกมามี 2 ส่วน คือสเตเตอร์ (Stator) และโรเตอร์ (Rotor) สเตเตอร์ส่วนที่ประกอบขึ้นจากขดลวดทองแดงจำนวนมาก ขณะที่โรเตอร์จะหมุนอยู่ภายในสเตเตอร์ จะสร้างอิเล็กตรอนไหลเวียนในสเตเตอร์จนทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าขึ้น เครื่องปั่นไฟ Cummins ดีอย่างไร? นอกจากกลไกการทำงานที่มีประสิทธิภาพสูง และถูกต้องตามหลักการกำเนิดไฟฟ้าแล้ว เครื่องปั่นไฟ Cummins ยังมีข้อดีและประโยชน์ในการใช้งานอีกหลายประการ ที่ทำให้สามารถครองใจคนได้ทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย Cummins คือแบรนด์เครื่องจักรกลสัญชาติอเมริกันที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 103 ปี ในปัจจุบันมูลค่าบริษัทสูงถึง 2.4 หมื่นล้านเหรียญ เป็นผู้นำในด้านนี้อย่างแท้จริง ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าเครื่องปั่นไฟทุกเครื่องผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง และได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากล เครื่องกำเนิดไฟฟ้า Cummins ช่วยป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับระบบแผงวงจรของเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานยิ่งขึ้น สำหรับธุรกิจ ทุกวินาทีล้วนมีค่า ดังนั้นหากเกิดอุบัติเหตุไฟฟ้าขัดข้อง ย่อมหมายถึงมูลค่าความสูญเสียมากมายที่จะตามมา ซึ่งถ้าหากมีเครื่องปั่นไฟ Cummins อยู่ เหตุการณ์เช่นนี้ย่อมไม่เกิดขึ้น แข็งแรง ทนทาน มีอายุการใช้งานยาวนาน แม้จะอยู่ท่ามกลางสภาพอากาศที่แปรปรวนอย่างมากของประเทศไทย การันตีโดยผู้ประกอบการรายใหญ่ และช่างไฟฟ้าผู้เชี่ยวชาญจำนวนมาก เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เนื่องจากจ่ายเงินเพียงครั้งเดียว แลกกับประสิทธิภาพการทำงานที่ยอดเยี่ยม ทนทานไม่ต้องซ่อมแซมหรือเปลี่ยนถ่ายน้ำมันบ่อย ๆ  เนื่องจากเป็นแบรนด์ชื่อดังระดับโลก อะไหล่ของเครื่องจึงสามารถหาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาด ส่งผลให้การซ่อมแซมเป็นไปอย่างสะดวกสบาย ประหยัดค่าใช้จ่ายได้จำนวนมาก และท้ายที่สุดเมื่อเลิกใช้งานก็สามารถนำไปขายต่อได้เงินเข้ากระเป๋าอีกทอดหนึ่ง เครื่องปั่นไฟ Cummins เหมาะกับอุตสาหกรรมใด? ด้วยประสิทธิภาพการทำงานที่สูงของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า Cummins จึงตอบโจทย์ครอบคลุมการใช้งานในอุตสาหกรรมหลากหลายประเภท เช่น โรงงาน: ในกรณีที่เกิดไฟฟ้าดับ ถ้าหากไม่มีเครื่องปั่นไฟฟ้า อุปกรณ์และสายพานการผลิตต่าง ๆ ย่อมหยุดโดยอัตโนมัติ สร้างความเสียหายมหาศาล โรงแรม: คงไม่มีแขกคนไหนประทับใจ ถ้าหากโรงแรมที่เข้าพักไฟดับ ต้องทนนอนท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าว โรงเรียน: แน่นอนว่าเมื่อไฟดับ การเรียนการสอนย่อมต้องหยุดชะงักเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เครื่องกำเนิดไฟฟ้า Cummins ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ได้ โรงพยาบาล: เครื่องปั่นไฟคือสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับโรงพยาบาล มีกฎหมายที่ระบุถึงความสำคัญข้อนี้ และกำหนดโทษผู้ฝ่าฝืนชัดเจน เนื่องจากทุกวินาทีหมายถึงชีวิต  การก่อสร้าง: เครื่องปั่นไฟ Cummins ช่วยให้การเชื่อมต่อกระแสไฟฟ้าเพื่ออำนวยความสะดวกภายในบริเวณไซต์งานก่อสร้างมีความง่ายดายมากขึ้น การสำรวจแหล่งพลังงาน: สำหรับอุตสาหกรรมที่เน้นการทำงานในพื้นที่ทุรกันดาร ไฟฟ้าเข้าไม่ถึง เครื่องปั่นไฟคืออุปกรณ์สำคัญอย่างยิ่ง  สำหรับผู้ประกอบการหรือเจ้าของธุรกิจอุตสาหกรรมประเภทต่าง ๆ ที่กำลังมองหาเครื่องปั่นไฟคุณภาพสูง แข็งแรงทนทาน มาตรฐานระดับโลก และได้รับความไว้วางใจทั่วประเทศ เราขอแนะนำ เครื่องปั่นไฟ Cummins โดยสามารถสั่งซื้อได้ง่าย ๆ กับ S.E.A. Power Gent ตัวแทนจำหน่ายเครื่องปั่นไฟรายใหญ่ที่มีความน่าเชื่อถือ และนอกจาก Cummins ยังมีเครื่องปั่นไฟหลากหลายแบรนด์ให้เลือกอีกมากมาย เรามีทีมผู้เชี่ยวชาญ มากประสบการณ์เกี่ยวกับเครื่องปั่นไฟ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นไปจนจบการติดตั้งเครื่องปั่นไฟ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร. 097-146-3594
เครื่องปั่นไฟ GENY แบรนด์คุณภาพ ราคาไม่แพง มีให้เลือกหลายรุ่น
พลังงานไฟฟ้า เป็นสิ่งที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ที่ไม่เพียงแต่จะให้ความสวยงามและสะดวกสบาย แต่ยังช่วยในเรื่องความปลอดภัยอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ความต้องการใช้ไฟฟ้ามีเพิ่มมากขึ้นตามความเจริญเติบโตของเมือง รวมถึงการใช้เป็นไฟฟ้าสำรองเวลาที่ไฟฟ้ามีปัญหา จนส่งผลให้สายงานด้านการผลิตต้องหยุดชะงัก ซึ่งอาจสร้างความเสียหายต่อการทำงานได้  ด้วยเหตุนี้ จึงมีการคิดค้นเครื่องปั่นไฟขึ้นมา เพื่ออำนวยความสะดวกด้านพลังงานไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นการนำเครื่องปั่นไฟไปใช้เป็นพลังงานหลักสำหรับงานอีเวนต์นอกสถานที่ พลังงานสำรองในโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมถึงการใช้เป็นพลังงานเคลื่อนที่ขนาดเล็ก สำหรับการซ่อมแซม หรือแม้กระทั่งการเดินทางไปในที่ที่ไม่มีไฟฟ้าเข้าถึง  ส่วนมาก เรามักจะรู้จักแบรนด์เครื่องปั่นไฟซึ่งเป็นแบรนด์ของญี่ปุ่น และจีน แต่รู้หรือไม่ว่า เรามีแบรนด์เครื่องปั่นไฟของคนไทย ที่มีคุณภาพ และราคาย่อมเยา อย่าง GENY โดยเราสามารถเลือกซื้อได้ ทั้งแบบมือหนึ่งและมือสอง และมีให้เลือกใช้งานถึง 3 รุ่น ตามความเหมาะสมต่อการใช้งาน วันนี้ เราจะมาบอกถึงวิธีการเลือกเครื่องปั่นไฟ GENY พร้อมบอกถึงจุดดีและจุดด้อยของเครื่องปั่นไฟในแต่ละรุ่นให้ทราบกัน  แนะนำเครื่องปั่นไฟ GENY แบบไหนเหมาะกับการใช้งาน เครื่องปั่นไฟ GENY เป็นเครื่องปั่นไฟสัญชาติไทย ที่นำเครื่องยนต์ ตัวผลิตกระแสไฟฟ้า และชุดควบคุมมาจากประเทศต่าง ๆ มีทั้งแบบที่ประกอบในไทยและนำเข้า มีหลากหลายขนาดให้เลือก โดยปัจจุบันมีทั้งหมด 4 รุ่น ซึ่งมีความแตกต่างกันตามขนาดของเครื่องยนต์ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้  C Series สำหรับเครื่องปั่นไฟ GENY รุ่นแรกที่ขอแนะนำ จะเป็น GENY รุ่น C ซึ่งเป็นรุ่นมาตรฐานของแบรนด์ และเป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดของแบรนด์ โดยใช้เครื่องยนต์ของ CUMMINS ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ผลิตเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่ได้มาตรฐานสากล และเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก ในส่วนของไดชาร์จ หรือตัวผลิตกระแสไฟเป็นของ Stamford และชุดควบคุมของ Deepsea มีรุ่นย่อยให้เลือกใช้ตามกำลังไฟและการใช้งาน โดยมีขนาดให้เลือกตั้งแต่ 30kVA ถึง 1650kVA เรียกว่ามีตั้งแต่ขนาดรุ่นเล็ก ๆ ไปจนถึงขนาดใหญ่ ให้สามารถเลือกใช้ได้ตามต้องการ F Series สำหรับเครื่องปั่นไฟ GENY รุ่น F เป็นรุ่นที่นำเข้ามาประกอบในไทย โดยใช้เครื่องยนต์ FPT ซึ่งเป็นเครื่องยนต์มาตรฐานนำเข้าจากประเทศอิตาลี และไดชาร์จ หรือตัวผลิตกระแสไฟเป็นของ Marelli ซึ่งเป็นแบรนด์จากอิตาลีเช่นกัน ส่วนชุดควบคุมเป็นของ Deepsea จากสหราชอาณาจักร โดยมีขนาดให้เลือกตั้งแต่ 50kVA ถึง 550kVA  W Series สำหรับใครที่มีงบประมาณจำกัด ขอแนะนำเครื่องปั่นไฟรุ่น W ของ GENY ซึ่งเป็นเครื่องปั่นไฟที่ใช้เครื่องยนต์ Weichai จากประเทศจีน ทำให้มีราคาถูก ส่วนตัวผลิตกระแสไฟฟ้าจะเป็นของ Faraday และชุดควบคุมจาก Deepsea มีขนาดให้เลือกตั้งแต่ 70kVA ถึง 1400kVA โดยรุ่น W เป็นรุ่นที่ประกอบในไทย เหมาะสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด  DCA Series เครื่องปั่นไฟรุ่นที่ 4 ของ GENY เป็นเครื่องปั่นไฟที่นำเข้าจากประเทศจีน และใช้เครื่องยนต์หลากหลายแบรนด์ จาก FAWDE, ISUZU และ MITSUBISHI โดยมีขนาดให้เลือกตั้งแต่ 20kVA ถึง 66kVA พิจารณาจากความต้องการในการใช้งาน ที่จริงแล้วการเลือกซื้อเครื่องปั่นไฟ ไม่ว่าจะเป็นรุ่นใดหรือแบรนด์ใดก็ตาม เราจะต้องพิจารณาปริมาณไฟฟ้าเป็นสำคัญ เพราะเครื่องปั่นไฟที่ซื้อมาจะไม่มีค่าเลย หากว่าไม่สามารถตอบสนองความต้องการในการใช้ไฟฟ้าของเราได้ ซึ่งแต่ละองค์กรหรือแต่ละที่ก็มีความต้องการในการใช้ไฟฟ้าที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้น เราควรจะคำนวณจำนวนกระแสไฟฟ้าให้ดีตั้งแต่แรก ก่อนที่จะเลือกซื้อ เพื่อที่จะได้ไม่เสียทั้งเวลา และไม่เสียทั้งเงินไปโดยเปล่าประโยชน์ ด้วยเหตุนี้ เราจึงควรลิสต์รายการเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือเครื่องจักรที่เราต้องใช้งาน จากนั้นใส่ตัวเลขจำนวนวัตต์ของเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือเครื่องจักรทั้งหมด และทำการบวกจำนวนวัตต์ของกระแสไฟฟ้าที่เราต้องใช้งานพร้อมกัน  หากว่าเราไม่แน่ใจ ลองลิสต์รายชื่อเครื่องจักรหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้งาน แล้วปรึกษากับผู้จำหน่าย เพื่อค้นหาเครื่องปั่นไฟที่ตรงกับความต้องการของเรา   พิจารณาจากเครื่องยนต์ที่ใช้งาน ความจริงแล้วเครื่องปั่นไฟในท้องตลาดสามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภทตามเครื่องยนต์ที่ผลิตพลังงานไฟฟ้า ซึ่งแต่ละประเภทก็มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน ได้แก่  เครื่องปั่นไฟเบนซิน เป็นเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซินในการขับเคลื่อน โดยมากจะเป็นเครื่องปั่นไฟที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก เนื่องจากเสียงดัง และปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จำนวนมาก  เครื่องปั่นไฟดีเซล เป็นเครื่องยนต์ที่เสียงดังเช่นเดียวกับแบบเบนซิน แต่มีอัตราการกินน้ำมันที่น้อยกว่า จึงประหยัดงบประมาณมากกว่า จึงมักวางในพื้นที่โล่งกว้าง  เครื่องปั่นไฟแบบ Inverter เป็นเครื่องปั่นไฟที่พัฒนามาจากเครื่องเบนซิน ซึ่งแก้ไขทุกปัญหาของเครื่องปั่นไฟแบบเดิม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเสียงที่เบากว่า และมีอัตราการกินน้ำมันที่น้อยกว่า และปล่อยมลพิษน้อยกว่าอีกด้วย แต่ก็แลกมาด้วยราคาที่สูงกว่าเครื่องปั่นไฟในแบบทั่วไป  สำหรับผู้ประกอบการท่านใดที่สนใจซื้อและติดตั้งเครื่องปั่นไฟ รวมถึงต้องการคำแนะนำทางด้านนี้โดยเฉพาะ ที่ S.E.A. Power Gent เราขายเครื่องปั่นไฟ GENY และแบรนด์อื่น ๆ ที่มีคุณภาพ พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญ มากประสบการณ์เกี่ยวกับเครื่องปั่นไฟ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นไปจนจบการติดตั้งเครื่องปั่นไฟ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร. 097-146-3594
เครื่องปั่นไฟดีเซล VS เครื่องปั่นไฟเบนซิน แบบไหนดีกว่ากัน?
ผู้ประกอบการหลาย ๆ ท่านอาจจะกังวลอยู่ว่าเวลาเกิดไฟดับหรือไฟฟ้าขัดข้อง เราควรจะต้องมีเครื่องปั่นไฟสำรองไว้สักเครื่องสองเครื่องหรือไม่ และควรเป็นแบบไหนดี ในความเป็นจริงแล้ว เครื่องปั่นไฟมีให้เลือกทั้งแบบเครื่องปั่นไฟดีเซลและเครื่องปั่นไฟเบนซิน ซึ่งทั้งสองแบบมีข้อดี ข้อเสียแตกต่างกันออกไป ทำให้ไม่แน่ใจว่าควรเลือกเครื่องปั่นไฟแบบไหนให้เวิร์กและใช้งานได้ยาว ๆ วันนี้เราจะพาผู้ประกอบการ เจ้าของธุรกิจทุกท่านไปดูความแตกต่างระหว่างเครื่องปั่นไฟทั้งสองแบบนี้ว่ามีอะไรบ้าง? และมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันอย่างไร? เพื่อให้คุณสามารถนำไปใช้ประกอบการพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อเครื่องปั่นไฟที่ตอบโจทย์ความต้องการด้านธุรกิจมากที่สุด ถ้าพร้อมแล้ว ตามมาดูกันเลยในบทความนี้ เครื่องปั่นไฟดีเซล เครื่องปั่นไฟดีเซล (Diesel Generator) คือ เครื่องกำเนิดพลังไฟฟ้าด้วยน้ำมันดีเซลโดยเฉพาะ ซึ่งขอบอกเลยว่า เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดีสำหรับการใช้งานในกรณีที่ไม่มีไฟฟ้าจากสายส่งหลัก ไม่ว่าจะเป็นการปั่นไฟฟ้าใช้งานหากเกิดเหตุไฟฟ้าดับเป็นเวลานาน หรือแม้แต่ในพื้นที่ที่ไฟฟ้ายังเข้าไม่ถึง เป็นต้น ซึ่งเครื่องปั่นไฟแบบดีเซลนั้นจะมีข้อดีและข้อเสียอย่างไร เราขออธิบายแบบง่าย ๆ ดังนี้   ข้อดีของเครื่องปั่นไฟดีเซล เป็นหนึ่งในเครื่องปั่นไฟที่นิยมใช้กันมากที่สุดในปัจจุบัน ช่วยประหยัดต้นทุน สามารถใช้งานได้ยาวนานกว่า  เครื่องปั่นไฟดีเซลมีราคาคุ้มค่าสำหรับธุรกิจที่ต้องใช้ไฟฟ้าในระยะเวลาที่ยาวนาน  เหมาะสำหรับการใช้งานในระยะยาวที่ต้องการความต่อเนื่องของกระแสไฟฟ้าปริมาณมากและต้องใช้ไฟฟ้ากับเครื่องมือหรือเครื่องจักรจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น งานนอกสถานที่ประกอบการ งานในพื้นที่ที่กระแสไฟฟ้าเข้าไม่ถึง ไซต์งานทั้งขนาดเล็กและขนาดกลาง มีความทนทานมากกว่าเครื่องปั่นไฟชนิดที่ใช้น้ำมันเบนซิน เครื่องปั่นไฟดีเซลมีราคาค่าทำนุบำรุงรักษาต่ำ เนื่องจากไม่มีคาร์บูเรเตอร์ หัวเทียน ซึ่งเป็นชิ้นส่วนที่ต้องเปลี่ยนหรือซ่อมเป็นประจำในเครื่องปั่นไฟประเภทอื่น ๆ ความปลอดภัยสูงกว่า เนื่องจากน้ำมันดีเซลติดไฟยากกว่าน้ำมันเบนซิน จึงทำให้เหมาะสำหรับงานที่มีประกายไฟ หรือ ความเสี่ยงในการเกิดเพลิงไหม้มากกว่าอีกด้วย เหมาะสำหรับใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน มากกว่าเครื่องปั่นไฟแบบเบนซิน ข้อเสียของเครื่องปั่นไฟดีเซล เสียงดังกว่าเครื่องยนต์เบนซิน ซึ่งอาจก่อให้เกิดความรำคาญแก่บริเวณใกล้เคียงได้ ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากเมื่อน้ำมันดีเซลถูกสันดาปแล้ว จะเกิดเป็นไอเสีย มลพิษได้ มีน้ำหนักมาก ยากต่อการเคลื่อนย้าย  เครื่องปั่นไฟเบนซิน เครื่องปั่นไฟเบนซิน (Gasoline Generator) คือ เครื่องกำเนิดพลังไฟฟ้าด้วยเชื้อเพลิงเบนซิน โดยสามารถรองรับการใช้งานได้ทั้งน้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล์ 91 และแก๊สโซฮอล์ 95 ปัจจุบันนี้ ได้มีการพัฒนา ออกแบบ และต่อยอดให้มีการใช้เชื้อเพลิงน้อยลงกว่าเครื่องปั่นไฟเบนซินในสมัยก่อน และเหมาะกับการใช้งานภายในครัวเรือน การสื่อสารขนาดย่อม และคอมพิวเตอร์สำนักงาน เป็นต้น ซึ่งเครื่องปั่นไฟดังกล่าวมีข้อดีและข้อเสีย ดังต่อไปนี้    ข้อดีของเครื่องปั่นไฟเบนซิน เป็นเครื่องปั่นไฟที่เน้นความคล่องตัวสูง สะดวกในการเคลื่อนย้ายเนื่องจากมีขนาดเล็กและน้ำหนักเบากว่าเครื่องปั่นไฟดีเซล ราคาถูกกว่า ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก ดูแลรักษาง่ายกว่า  ราคาในการซ่อมบำรุงแต่ละครั้งไม่สูง เสียงเงียบกว่ามาก จึงไม่ไปรบกวนผู้คนที่อยู่บริเวณบ้านใกล้เรือนเคียง ข้อเสียของเครื่องปั่นไฟเบนซิน อายุการใช้งานน้อยกว่า ต้องการการบำรุงรักษาบ่อยกว่าเครื่องปั่นไฟดีเซล ใช้งานต่อเนื่องได้น้อยกว่า เนื่องจากน้ำมันเบนซินเป็นสารไวไฟ มีอายุการเก็บรักษาสั้น เสื่อมสภาพไวกว่า จึงเหมาะสำหรับงานขนาดเล็ก ๆ เช่น ภายในครัวเรือน คาราวานเล็ก ๆ งานอีเวนต์เคลื่อนที่ แคมป์ปิ้ง เป็นต้น จะเห็นได้ว่าเครื่องปั่นไฟทั้งสองแบบนั้นมีความเหมาะสม แตกต่างกันตามการใช้งานของแต่ละประเภท เราจึงควรพิจารณาทั้งข้อดี ข้อเสียในหลาย ๆ มิติ ควบคู่ไปกับการใช้งานจริง ซึ่งหากเราเน้นการใช้แบบเล็ก ๆ ขนย้ายไปนอกสถานที่ได้ง่าย เครื่องปั่นไฟเบนซินก็ถือเป็นทางเลือกที่ดีเลยทีเดียว แต่อาจต้องยอมรับในเรื่องของการทำนุบำรุงบ่อยสักหน่อย ในขณะที่หากเราต้องนำไปใช้ในงานที่ค่อนข้างใหญ่ เน้นการใช้งานที่ให้กระแสไฟฟ้าต่อเนื่องยาวนาน จะแนะนำให้เลือกใช้เครื่องปั่นไฟดีเซลซึ่งตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด แต่อาจต้องหาวิธีจัดการกับเรื่องมลภาวะทางเสียงและอากาศให้เหมาะสมเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาทางด้านสิ่งแวดล้อมตามมา นั่นเอง และนี่ก็คือความแตกต่างระหว่างเครื่องปั่นไฟทั้งสองแบบที่นำมาให้ทุกคนรู้จักในวันนี้ สำหรับผู้ประกอบการท่านใดที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกใช้เครื่องปั่นไฟดีแบบไหนดี ที่ S.E.A. Power Gent มีเครื่องปั่นไฟมือสองแบรนด์ดังให้คุณเลือกสรรมากมาย รวมถึงเครื่องปั่นไฟเบนซินและเครื่องปั่นไฟดีเซลราคาเข้าถึงได้ คุณภาพดี พร้อมด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง มากประสบการณ์เกี่ยวกับเครื่องปั่นไฟ ยินดีให้บริการแบบครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่การให้คำปรึกษา แนะนำ ไปจนถึงการติดตั้งและซ่อมบำรุงให้แก่ธุรกิจ SME และทุกอุตสาหกรรม การันตีความรวดเร็ว คุณภาพ และประสิทธิภาพโดยมีลูกค้ารายใหญ่มากมายที่พึงพอใจและเชื่อมั่นเลือกใช้บริการกับเรา สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องปั่นไฟดีเซลและเครื่องปั่นไฟเบนซิน โทร. 097-146-3594 หรือส่งอีเมลมาที่ puvakorn@seapowergent.com
เหตุผลสำคัญที่คุณต้องรู้ ทำไมถึงต้องอาศัยบริการติดตั้งเครื่องปั่นไฟ?
เครื่องปั่นไฟถือเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญมากและขาดไม่ได้สำหรับทุกอุตสาหกรรม รวมถึงการทำงานหรือประกอบกิจการใด ๆ ในพื้นที่ต่าง ๆ ที่ไฟฟ้าไม่สามารถเข้าถึง ซึ่งทุกครั้งที่ผู้ประกอบการต้องเลือกซื้อเครื่องปั่นไฟ ขั้นตอนที่ควรให้ความสำคัญไม่ต่างกับการเลือกซื้อก็คือ การติดตั้งเครื่องปั่นไฟเพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างถูกต้องเหมาะสม เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด นั่นจึงเป็นเหตุผลให้ผู้ประกอบเลือกที่จะใช้บริการติดตั้งเครื่องปั่นไฟกับผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ ที่รับติดตั้งเครื่องปั่นไฟแบบครบวงจร สำหรับผู้ประกอบการท่านใดที่กำลังมองหาเครื่องปั่นไฟและกำลังลังเลอยู่ว่าจะใช้บริการติดตั้งเครื่องปั่นไฟจากช่างผู้เชี่ยวชาญดีหรือไม่? เรามีข้อมูลที่คุณควรรู้มาฝากในบทความนี้ เครื่องปั่นไฟคืออะไร? ใช้ทำอะไรได้บ้าง? ก่อนที่เราจะไปดูกันว่าทำไมเราถึงควรใช้บริการจากร้านที่รับติดตั้งเครื่องปั่นไฟ เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเครื่องปั่นไฟให้มากขึ้นกันก่อน ถ้าให้อธิบายแบบง่าย ๆ เครื่องปั่นไฟหรือเครื่องกำเนิดไฟฟ้า (ซึ่งในภาษาอังกฤษเรียกว่า Generator Set) คือ เครื่องมือไฟฟ้าประเภทหนึ่งซึ่งใช้ในการผลิตไฟฟ้าด้วยระบบสำรองไฟ โดยมีหลักการ คือ ตัวเครื่องปั่นไฟจะทำการเปลี่ยนแปลงพลังงานกลมาเป็นพลังงานไฟฟ้าด้วยการเหนี่ยวนำของแม่เหล็ก ปัจจุบันนี้ เครื่องปั่นไฟถือเป็นเครื่องมือที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายมากในทุกธุรกิจ ทุกอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็น โรงงานอุตสาหกรรม โรงพยาบาล โรงแรม โรงเรียน คอนโดมิเนียม งานวิศวกรรมนอกสถานที่และอื่น ๆ อีกมากมาย ครอบคลุมตั้งแต่ธุรกิจขนาดเล็ก ขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่อีกด้วย นอกจากนี้ยังรวมถึงการใช้งานภายในครัวเรือน เช่น ที่อยู่อาศัยที่ตั้งอยู่ในพื้นห่างไกลหรือพื้นที่ที่ไฟดับบ่อยครั้ง เป็นต้น ถ้าหากจะกล่าวว่า เครื่องปั่นไฟ มีความสำคัญมากในแง่ของการทำธุรกิจก็คงไม่ผิดนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สามารถช่วยป้องกันการหยุดชะงักของธุรกิจที่อาจทำให้เสียโอกาสทางการค้า จากเหตุไฟฟ้าดับแบบฉับพลันหรือกระแสไฟฟ้าที่ไม่เพียงพอ และยังช่วยถนอมเครื่องมือและเครื่องจักรต่าง ๆ ให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ทำให้ไม่เสียง่ายได้อีกด้วย  เหตุผลสำคัญ: ทำไมเราถึงควรใช้บริการติดตั้งเครื่องปั่นไฟ เหตุผลที่ผู้ประกอบควรใช้บริการติดตั้งเครื่องปั่นไฟ สามารถสรุปได้ง่าย ๆ ดังนี้ 1. แต่ละธุรกิจเหมาะกับขนาดเครื่องปั่นไฟที่แตกต่างกัน เนื่องจากแต่ละธุรกิจนั้นล้วนมีความต้องการใช้ไฟฟ้าที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็น จำนวนของเครื่องจักรกล ปริมาณการผลิตหรือธรรมชาติของการทำงาน โดยช่างผู้เชี่ยวชาญที่รับติดตั้งเครื่องปั่นไฟที่มีประสบการณ์สูง จะมีบทบาทสำคัญเพราะสามารถช่วยประเมินและให้คำแนะนำได้อย่างตรงจุด และตอบโจทย์กับความต้องการทางธุรกิจ และไม่ว่าคุณจะทำงานอยู่ในธุรกิจใด ทั้งอุตสาหกรรมโรงงาน โรงแรม หรือธุรกิจร้านค้าร้านอาหาร ช่างผู้เชี่ยวชาญก็จะรู้ว่าควรใช้เครื่องปั่นไฟขนาดเท่าไร ถึงจะเพียงพอต่อการใช้งาน และสามารถดำเนินงานได้อย่างราบรื่นไม่ติดขัด  2. เพื่อการใช้งานที่มีประสิทธิภาพสูงสุด รู้หรือไม่? บ่อยครั้งที่เครื่องปั่นไฟถูกติดตั้งแบบไม่ถูกต้องจนทำให้เกิดปัญหาในการใช้งานหลายประการ ไม่จะเป็น เครื่องปั่นไฟไม่ทำงาน ไฟฟ้าที่ออกมาจากเครื่องมีการกระตุก จนส่งผลให้เครื่องจักรต่าง ๆ เสียหาย ทำให้กระบวนการการทำงานหรือการผลิตทั้งหมดต้องหยุดชะงัก จนสร้างความเสียหายทางธุรกิจตามมา ดังนั้น เพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว ช่างมืออาชีพหลายท่านจึงแนะนำให้ใช้บริการติดตั้งเครื่องปั่นไฟจากผู้ชำนาญที่รับติดตั้งเครื่องปั่นไฟโดยเฉพาะ เพื่อให้สามารถใช้งานเครื่องปั่นไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด 3. เพื่อความปลอดภัยสูงสุด บางครั้งการติดตั้งเครื่องปั่นไฟแบบผิด ๆ อาจก่อให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันหรือความไม่ปลอดภัยในสถานประกอบการได้ ดังนั้นการเลือกใช้บริการติดตั้งเครื่องปั่นไฟที่มีความเชี่ยวชาญ จะช่วยป้องกันปัญหานี้และเพิ่มความปลอดภัยให้แก่บุคลากรได้อีกด้วย  4. ให้บริการแบบครบวงจร ยิ่งไปกว่านั้น ร้านที่รับติดตั้งเครื่องปั่นไฟยังให้บริการแบบครบวงจร โดยครอบคลุมตั้งแต่การให้คำปรึกษา การติดตั้ง การดูแล การทำนุบำรุงซ่อมแซมโดยผู้ที่เชี่ยวชาญและอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งหากมีข้อสงสัยหรือมีปัญหาในการใช้งานใด ๆ ก็สามารถติดต่อทีมผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้มาจัดการดูแลได้อย่างถูกต้องเหมาะสมได้เลยทันที ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้นนี้ ผู้ประกอบการทุกคนจึงควรตัดสินใจเลือกใช้บริการติดตั้งเครื่องปั่นไฟจากทีมช่างที่รับติดตั้งเครื่องปั่นไฟที่มีประสิทธิภาพ เพื่อประโยชน์สูงสุดของธุรกิจคุณเอง หวังว่าข้อมูลนี้เหล่านี้จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านทุกท่านไม่มากก็น้อย ส่วนผู้ประกอบการท่านใดที่สนใจบริการติดตั้งเครื่องปั่นไฟและต้องการคำแนะนำด้านนี้เพิ่มเติม ที่ S.E.A. Power Gent เรามีทีมผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเกี่ยวกับเครื่องปั่นไฟยินดีให้คำปรึกษาในทุกขั้นตอน พร้อมบริการที่เปี่ยมไปด้วยความรวดเร็ว มีประสิทธิภาพในราคาที่เข้าถึงได้ ตอบสนองความต้องการทางธุรกิจของทุกอุตสาหกรรม สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับผู้เชี่ยวชาญของเราได้ที่โทร. 097-146-3594 หรืออีเมล puvakorn@seapowergent.com
โครงการเครื่องปั่นไฟเครื่องแรก
โครงการเครื่องปั่นไฟเครื่องแรก : เพื่อสาธารณประโยชน์ เจตจำนงค์ : บจก. เอส.อี.เอ. พาวเวอร์ เจ็นท์ (S.E.A. Power Gent Co., Ltd) ต้องการจะมีส่วนช่วยเหลือสังคม โดยการแบ่งส่วนของกำไรที่ได้จากการดำเนินธุรกิจ มาใช้ในโครงการเครื่องปั่นไฟเครื่องแรก เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาสังคมไทยให้ยั่งยืนตลอดไป วัตถุประสงค์ : โครงการเครื่องปั่นไฟเครื่องแรกมีขึ้นเพื่อบริจาค(ให้ฟรี!!!) เครื่องปั่นไฟ เครื่องกำเนิดไฟฟ้า และแผงพลังงานแสงอาทิตย์ สำหรับใช้ในสาธารณประโยชน์เช่นวัด โรงเรียน โรงพยาบาล หน่วยราชการ องค์การบริหารต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ(ประเทศในกลุ่ม AEC) โดยเฉพาะในพื้นที่ทุรกันดารที่การไฟฟ้าเข้าไม่ถึง เป้าหมาย : ปีแรก(2556) บริจาค 12 ชุด : ปีที่2(2557) บริจาค 24 ชุด : ปีต่อๆไป บริจาค ไม่จำกัดจำนวน *** ผู้รับบริจาคไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น *** การขอเข้าร่วมโครงการ 1.ผู้ที่มีสิทธิ์ขอรับการบริจาค : ต้องเป็นผู้ที่นำของบริจาคไปใช้เพื่อประโยชน์สาธารณะเท่านั้น ห้ามใช้เพื่อหาผลประโยชน์ใดๆทั้งสิ้น 2.ไม่มีกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดของโครงการ ผู้ที่สนใจเข้าร่วม โครงการเครื่องปั่นไฟเครื่องแรก สามารถส่งโครงการการขอรับบริจาคโดยเขียนบรรยายมาให้ชัดเจนว่าต้องการนำไปใช้อะไร ใช้ที่ไหน ใครได้ประโยชน์ และจะดูแลรักษาของรับบริจาคอย่างไร แล้วส่ง email มาที่ puvakorn@seapowergent.com หรือโทร. 084-001-5859 , 087-691-8333 ได้ตลอด 24ชม. หลักเกณฑ์การคัดเลือก 1.ทางบริษัทขอสงวนสิทธฺิ์ในการพิจารณาผู้ที่ได้รับการบริจาคแต่เพียงผู้เดียว โดยพิจารณาผ่านทางคณะกรรมการที่บริษัทแต่งตั้ง 2.หลักเกณฑ์พิจารณา จะพิจารณาจากวัดถุประสงค์และความจำเป็นในการใช้งานเป็นหลัก ตามที่คณะกรรมการเป็นผู้กำหนด 3.การประกาศผล จะประกาศผลการพิจารณาให้รู้ทั่วกันผ่านทาง Website : www.seapowergent.com ทุกวันที่ 1 ของเดือน สินค้าที่เข้ารวมโครงการ 1.เครื่องกำเนิดไฟฟ้าดีเซล ITC DG6000S ขนาด 5kW 220V 1Phase 50Hz 2.แผงพลังงานสุริยะ(Solar Cell) พร้อมชุด Inverter ขนาด 1kW ***ไม่รวมค่าดูแลรักษา และอุปกรณ์ใช้แล้วหมดไป*** ลำดับที่ ผู้เข้าร่วมโครงการ 1. สำนักปฎิบัติธรรมทิพย์รส อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ 2. วัดหนองใหญ่ เขตสายไหม จ.กรุงเทพ 3. วัดบ้านหนองไฮ อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีษะเกษ 4. วัดป่าถ้ำผาดิน จ.เลย 5. อาศรมพระธรรมจาริกบ้านผาปูน จ.เชียงใหม่ S.E.A. Power Gent Co., Ltd. : พลังงานเพื่อสังคมไทย
เครื่องปั่นไฟ สาขาเชียงใหม่
S.E.A. Power Gent กำลังจะเปิดสาขาที่จังหวัดเชียงใหม่ รองรับการขยายตัวของธุรกิจเครื่องปั่นไฟในจังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงเครื่องกำเนิดไฟฟ้าทุกชนิด เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงงานบริการหลังการขายในพื้นที่ภาคเหนือ สามารถลดระยะเวลาในการรอรับบริการ เข้าถึงทุกปัญหาพร้อมรับการแก้ไขได้กระชับฉับไวยิ่งขึ้น พบกัน เร็วๆนี้…. สนใจข้อมูลเพิ่มเติม โทร.080-0560777 ภูวกร จันทรปรรณิก email : puvakorn@seapowergent.com
วิธีการเลือกขนาดของ UPS เบื้องต้น
โดยปกตินั้น UPS (Uninterruptible power supply) หรือ เครื่องสำรองไฟฟ้าที่วางขายกันในปัจจุบันจะบอกพิกัดไฟฟ้าหน่วยเป็น VA เช่น 600VA 700VA 800VA 1000VA(หรือ 1kVA) ขึ้นไปอีกหลายขนาดจนถึง 900KVAก็มี ซึ่งเราสามารถที่จะคำนวนหา Watt ได้จากค่า VA โดยเราต้องรู้ค่า Power Factor (PF)ของเครื่องแต่ละรุ่นก่อน อย่างUPSที่ใช้กัน ตามบ้านปกติ ที่เป็นชนิด Line Interactive with Stabilizer ปกติจะมีค่า Power Factor (PF)อยู่ที่ 0.6 ดังนั้นสมมุติว่าเป็นUPS ชนิด Line Interactive with Stabilizer ขนาดพิกัด 1000VA (1kVA) เราก็สามารถมาคำนวนได้เป็น 1000(VA) X 0.6 = 600 (Watt) ดังนั้นUPSเครื่องนี้สามารถรองรับโหลดได้สูงสุด 600Wattครับ ส่วนUPSที่เป็นชนิด True On-Line นั้นจะมีค่าเพาเวอร์แฟคเตอร์อยู่ที่ 0.7-0.8 โดยประมาณ ขึ้นอยู่กับวงจรที่ออกแบบมาโดยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่บริษัทที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์นั้น  
เครื่องปั่นไฟ Cummins | USA VS China
Cummins USA VS China อินทรีย์ผยองปะทะมังกรคะนองศึก สงครามเครื่องปั่นไฟระหว่าง Cummins made in USA กับเครื่องกำเนิดไฟฟ้า Cummins made in China ใครจะเหนือกว่ากันมาวิเคราะห์กันตัวต่อตัว Cummins Made in USA (US,UK) ข้อดี – เครื่องปั่นไฟ Cummins ที่ผลิตจากUSจะได้เปรียบในเรื่องของเทคโนโลยี มักจะใช้เครื่องยนต์รุ่นใหม่ซึ่งส่วนใหญ่ใช้กล่อง ECUควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ (เครื่องคอมม่อนเรล) ทำให้ได้ประสิทธิภาพสูง ประหยัดเชื้อเพลิงปล่อยไอเสียต่ำ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ข้อสังเกตสำหรับเครื่องประเภทนี้จะใช้รหัส Q เช่น QSB, QSL, QST, QSK ข้อเสีย – เมื่อเป็นเครื่องยนต์ระดับเทพย่อมต้องแลกมาด้วยราคาและค่าบำรุงรักษาที่สูงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งราคาสูงกว่าเครื่องจีนในรุ่นเดียวกันประมาณ 30-100% ไม่ได้โม้! หากเป็นเครื่องใหม่ระยะเวลาสั่งของก็นานกว่าพอสมควร อีกข้อน่าจะเป็นเรื่องของน้ำมันเชื้อเพลิงที่ต้องการน้ำมันคุณภาพสูงเหมือนกันประเภทน้ำมันผสมน้ำแบบบ้านเราก็จอดไม่ต้องแจว Cummins Made in China (ภายใต้ลิขสิทธิCumminsเท่านั้น ไม่รวมประเภทCummins เซินเจิ้น) ข้อดี – เครื่องปั่นไฟ Cummins ที่ผลิตจากประเทศจีนมักจะใช้เครื่องยนต์รุ่น Low Tech กว่าประเภท Direct Injection ทำให้ราคาถูกว่าการบำรุงรักษาง่าย ทนทาน สมบุกสมบัน ด้วยศักยภาพการผลิตของจีนทำให้สามารถผลิตออกมาได้เยอะมาก การสั่งของใช้เวลาที่สั้นกว่า Cummins USA สั่งปุ๊บได้ปั๊บ ข้อสังเกตสำหรับเครื่องประเภทนี้จะใช้รหัส BT, CT, NT, KT ข้อเสีย – เนื่องจากเป็นเครื่องยนต์รุ่นเก่าอัตราการใช้เชื้อเพลิงจะสูงกว่า และไอเสียจะปล่อยออกมามาเยอะกว่า(ฝรั่งมันฉลาด) เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าเครื่องจากอเมริกา ข้อสำคัญเมื่อมาจากจีนต้องระหวังของปลอมของก็อป(เจ็กมันฉลาด) สรุป ถ้าเงินไม่ใช้ปัญหาสำหรับคุณ Cummins USA ถ้าอยากได้ของถูกคุณภาพดี Cummins China ขอย้ำภายใต้ลิขสิทธิ์ Cummins เท่านั้น!! GENSET STANDBY POWER PRIME POWER USA ENGINE China ENGINE MODEL kVA kW kVA kW MODEL MODEL DS110 110 88 100 80 6BT5.9-G6 6BT5.9-G2 DS150 175 140 156 125 6CTA8.3-G2 6CTA8.3-G2 DS220 220 176 200 160 6CTAA8.3-G2 6CTAA8.3-G2 DS250 250 200 225 180 6LTAA8.9-G2 6LTAA8.9-G2 DS275 275 220 250 200 QSL9-G5 NT855-GA DS300 300 240 275 220 QSL9-G5 NTA855-G1A DS330 330 264 300 240 QSL9-G5 NTA855-G1B DS350 350 280 315 252 NTA855-G4 NTA855-G4 DS450 450 360 400 320 QSX15-G8 NTAA855-G7A DS500 500 400 450 360 QSX15-G8 KTA19-G3 DS550 550 440 500 400 QSX15-G8 KTA19-G4 DS650 650 520 600 480 QSK23-G7 NR2 KTA19-G8 DS825 825 660 750 600 QSK23-G7 NR2 KTA38-G2 DS880 880 704 800 640 QST30-G2 KTA38-G2B DS1000 1000 800 910 728 QST30-G3 KTA38-G2A DS1100 1100 880 1000 800 QST30-G4 KTA38-G5 DS1250 1250 1000 1125 900 QST30-G5 KTA38-G9 DS1375 1375 1100 1250 1000 KTAA38-G9A KTAA38-G9A DS1400 1400 1120 1275 1020 KTA50-G3 KTA50-G3 DS1675 1675 1340 1500 1200 KTA50-G8 KTA50-G8 DS2250 2250 1800 2000 1600 QSK60-G4 QSK60-G4 ข้อมูลอ้างอิง – cumminspower ผู้แต่ง : S.E.A. Power Gent Co., Ltd.
เครื่องปั่นไฟ Inverter
เครื่องปั่นไฟ Inverter คืออะไร ? เครื่องกำเนิดไฟฟ้าอินเวอร์เตอร์(IG) เป็นอุปกรณ์ที่มีเครื่องยนต์สันดาปภายใน, ไดนาโมปั่นไฟ(Atlernator) และตัวแปลงกระแสไฟฟ้า DC-AC แบบอิเล็กทรอนิกส์รวมอยู่ในเครื่องเดียวกัน เครื่องปั่นไฟอินเวอร์เตอร์ต้องใช้ไฟฟ้ากระแสตรง(DC)เพื่อแปลงเป็นไฟฟ้ากระแสสลับ(AC) (ซึ่งแตกต่างจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้าปกติที่ไดนาโมจะผลิตเป็นไฟฟ้า3 เฟส) เครื่องปั่นไฟระบบอินเวอร์เตอร์จะถูกปรับและเปลี่ยนความถี่ไปเป็นไฟฟ้ากระแสสลับ(AC)ที่คงที่ โดยปกติจะเป็นคลื่น Sinewave สม่ำเสมอ ที่มีTHD ต่ำกว่า 3 % การแปลงกระแสไฟฟ้าDC- AC ปกติจะทำโดยชุดควบคุมไมโครโปรเซสเซอร์ SMPS solid-state ซึ่งวงจรอิเล็กทรอนิกส์จะทำงานในโหมดPWMเหตุผลที่ใช้ระบบ 3 เฟส เนื่องจากมี ripple factor ที่ต่ำกว่าเฟสเดียวมาก เครื่องกำเนิดไฟฟ้า Inverter Honda EU30iS เครื่องปั่นไฟ Inverter มีประสิทธิภาพสูง ทำให้ประหยัดเชื้อเพลิงและเสียงเงียบกว่า ความถี่ของแรงดันไฟฟ้าซึ่งเกิดจากการหมุนของสนามแม่เหล็กมีความสัมพันธ์โดยตรงกับความถี่ของรอบการหมุนด้วยเหตุนี้ในเครื่องกำเนิดไฟฟ้าแบบ conventional portable เครื่องยนต์จะทำงานที่ความเร็วคงที่ ตัวอย่างเช่นเครื่องปั่นไฟชนิดปกติ 50 Hz ในบ้านเราจะใช้รอบเครื่องยนต์ที่ 3000 RPM สำหรับ2 poles หรือ1500 RPM สำหรับ4 poles อัตราการกินน้ำมันของมันยังสูงถึงครึ่งหนึ่งของเมื่อมีโหลดแม้เมื่อไม่ได้จ่ายกระแสไฟ ในทางกลับกันเครื่องปั่นไฟอินเวอร์เตอร์เครื่องยนต์สามารถเดินที่รอบต่ำเพราะถึงอย่างไรแรงดันไฟฟ้าก็จะได้รับการปรับให้ถูกต้องอยู่แล้ว นอกจากนี้เครื่องยนต์ไม่จำเป็นต้องทำงานอย่างสม่ำเสมอที่ความเร็วสูงสุดมันสามารถปรับอัตโนมัติขึ้นกับความต้องการการใช้ไฟฟ้าทั้งหมดนี้จึงทำให้มันประหยัดเชื้อเพลิงและเสียงเงียบกว่า ข้อได้เปรียบอีกอย่างของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าแบบอินเวอร์เตอร์คือมันสามารถนำมาต่อพ่วงกัน(synchronization)เพื่อให้มีกำลังที่สูงขึ้นได้ หมายเหตุ คุณไม่สามารถจะนำมันมาต่อพ่วงกันเฉยๆ ได้ คุณจำเป็นจะต้องมีหม้อแปลงสำหรับต่อขนาน (parallel adapter) ที่ทำให้ทั้งสองเครื่องทำงานซินโครไนซ์กัน เครื่องกำเนิดไฟฟ้าอินเวอร์เตอร์ในตลาดส่วนใหญ่จะมีกำลังไฟต่ำ เนื่องจากมันมีวัตต์ต่ำจึงไม่เหมะสำหรับใช้งานในบ้าน แต่ด้วยน้ำหนักที่เบาและเสียงทีเงียบ มันจึงเป็นตัวเลือกที่นิยมอย่างยิ่งสำหรับกิจกรรมการตั้งแค้มป์ S.E.A. Power Gent Co., Ltd.
ตรวจเช็คเครื่องปั่นไฟฟรี
โครงการ S.E.A. Care – บริการตรวจเช็คเครื่องปั่นไฟฟรี!! วิสัยทัศน์ (Vission) : บริษัท เอส.อี.เอ. พาวเวอร์ เจ็นท์ จำกัด ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการบำรุงรักษาเครื่องปั่นไฟ ให้สมบูรณ์พร้อมใช้งานอยู่เสมอ เพื่อให้เครื่องกำเนิดไฟฟ้ามีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และมีประสิทธิภาพสูงสุด จึงได้ริเริ่มโครงการนี้ขึ้นมาเพื่อบริการตรวจเช็คเครื่องปั่นไฟให้กับลูกค้าฟรี ทุกรุ่น ทุกขนาด ไม่มีค่าใช้จ่ายใด แม้จะไม่ได้ซื้อเครื่องกับทางเราก็ตาม เป้าหมาย (Target) : บริษัทมุ่งเน้นการให้บริการตรวจเช็คเครื่องปั่นไฟให้กับลูกค้าของบริษัท 100%เต็ม ไม่ว่าจะเป็นเครื่องขนาดใด และบริษัทยังให้บริการกับลูกค้าท่านอื่นๆที่มีความสนใจโครง แม้จะไม่ได้ซื้อเครื่องปั่นไฟกับเราก็ตาม พันธกิจ(Mission) 1.มุ่งเน้นการให้บริการตรวจเช็คสภาพเครื่องปั่นไฟ เพื่อให้เครื่องมีประสิทธิภาพสูงสุด 2.ควมคุมการดำเนินงานด้วยวิศวะกรที่มีความรู้ความเข้าใจในการบำรุงรักษาเครื่องกำเนิดไฟฟ้า 3.ดำเนินการตรวจเช็คฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ หวังว่าลูกค้าของเราจะได้รับความพึงพอใจสูงสุด S.E.A. Power Gent Co., Ltd.
การผลิตไฟฟ้าจากกระบวนการแก๊สซิฟิเคชั่น
การผลิตไฟฟ้าจากกระบวนการแก๊สซิฟิเคชั่น (Gasification) กระบวนการแก๊สซิฟิเคชั่น (Gasification) สามารถนำมาใช้ผลิตพลังงานได้ 2 รูปแบบ คือ 1.นำมาผ่านชุดลดอุณหภูมิและทำความสะอาดก๊าซ และส่งเข้าเครื่องยนต์ก๊าซ ( Gas Engine) เพื่อผลิตไฟฟ้า หรือ 2.ป้อนก๊าซเข้าไปเผาไหม้ในหม้อไอน้ำ เพื่อผลิตไอน้ำแล้วนำไปหมุนกังหันไอน้ำผลิตไฟฟ้า หรือนำความร้อนของไอน้ำไปใช้ประโยชน์อื่นต่อไป การผลิตเชื้อเพลิงทดแทนน้ำมันเตา จากระบบไพโรไลซิส แก๊สซิฟิเคชั่น (Gasification) และไพโรไลซิส (Pyrolysis) เป็นกระบวนการที่เกี่ยวข้องและต่อเนื่องกันในการเปลี่ยนชีวมวลซึ่งมีองค์ประกอบหลักคือ คาร์บอน ไฮโดรเจน และออกซิเจน ให้กลายเป็นก๊าซที่เผาไหม้ได้ ได้แก่ ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) ก๊าซไฮโดรเจน (H2) และก๊าซมีเทน (CH4) โดยกระบวนการดังกล่าวเป็นการเผาไหม้อินทรียสารแบบจำกัดปริมาณออกซิเจน ทำให้เกิดการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ กระบวนการกำจัดขยะด้วยเทคโนโลยีแก๊สซิฟิเคชั่น เริ่มจากการคัดแยกขยะมูลฝอยที่สามารถรีไซเคิลและขายได้ ขยะอันตราย ขยะที่ไม่สามารถเผาไหม้ได้ และขยะที่อาจจะระเบิดได้ออกจากขยะรวม จากนั้นนำขยะที่เหลือผ่านกระบวนการย่อยให้มีขนาดเล็กลงและมีขนาดใกล้เคียงกัน อบให้แห้ง (กรณีที่มีความชื้นสูง) และป้อนเข้าเตาเผาไพโรไรซิสหรือแก็สซิไฟเออร์ ก๊าซเชื้อเพลิงที่ได้มีค่าความร้อนเฉลี่ยประมาณ 5 เมกะจูล/ลูกบาศก์เมตร ซึ่งสามารถนำมาใช้ผลิตพลังงานต่อไป เครื่องปั่นไฟ แก๊สซิฟิเคชั่น (Gasification) และไพโรไลซิส (Pyrolysis) ที่มา : บจก.พลูตาหลวงรีไซเคิล
ก๊าซชีวภาพ (BIOGAS) กับการผลิตพลังงาน
เทคโนโลยีที่นำมาใช้ในกระบวนการผลิตกระแสไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ (Biogas,Syngas) ก๊าซชีวภาพ (BIOGAS) ถือได้ว่าเป็นเชื้อเพลิงสะอาด (CLEAN FUEL) ไม่มีการปลดปล่อยก๊าซที่ได้จากการเผาไหม้ (ZERO EMISSION) ในขณะที่ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม และมีอุตสาหกรรมต่อเนื่องจากการเกษตรมากมาย มีวัตถุดิบที่สามารถนำมาผลิตเป็นก๊าซชีวภาพได้ เช่น เศษพืชจากไร่นาและสวน เศษเหลือจากฟาร์มปศุสัตว์ รวมถึงมูลสัตว์ น้ำเสียและกากจากโรงงานแปรรูปผลิตผลทางการเกษตร เทคโนโลยีที่นำมาใช้ในกระบวนการผลิตกระแสไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ หากได้มีการพิจารณานำเศษต่างๆดังกล่าวมาพัฒนาเป็นก๊าซชีวภาพ ก็สามารถผลิตไฟฟ้าได้มากกว่า 1,000 เมกะวัตต์ (MW) ซึ่งเทคโนโลยีที่นำมาใช้ในกระบวนการผลิตกระแสไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ เป็นเทคโนโลยีที่ไม่ยุ่งยาก สามารถดำเนินการได้ในระดับชุมชน เป็นการเพิ่มรายได้ให้ชุมชนอีกทางหนึ่ง เพราะผลพลอยได้ที่ได้จากกระบวนการย่อยสลายอินทรีย์วัตถุเหล่านี้อาจมีมูลค่ามากกว่าไฟฟ้าคือปุ๋ยอินทรีย์ และผลที่ได้รับที่มีมูลค่ามหาศาลคือการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม จากการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ได้จากการย่อยสลายของของเสียเหล่านี้เช่นกัน พลังงานทดแทนจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ตามแผนและนโยบายของกระทรวงพลังงานที่ต้องหาพลังงานทดแทน ตั้งเป้าหมายไว้ว่าในอีก 10 ปีข้างหน้าจะต้องมีพลังงานทดแทนให้ได้ถึง 25% โดยใช้พลังงานทดแทนเพื่อการผลิตไฟฟ้าให้ได้จำนวนเกือบ 10,000 เมกะวัตต์ โดยมีที่มาจากหลากหลาย เช่น แสงอาทิตย์ ลม คลื่น ความร้อนใต้พิภพ น้ำ และชีวภาพ ในจำนวนนี้คาดว่าจะได้จากก๊าซชีวภาพจำนวประมาณ8001,000 เมกะวัตต์ และยังได้กำหนดเป้าหมายย่อยๆ จากแหล่งผลิตในแต่ละภาคส่วน เช่น จากภาคอุตสาหกรรม (WASTE WATER & DECANTER) ประมาณ 230 เมกะวัตต์ (จากข้อมูลปัจจุบันที่มีกำลังการผลิต 156.56 เมกะวัตต์) หวังที่จะได้จากภาคปศุสัตว์ (WASTE WATER & MANURE) ประมาณ 10 เมกะวัตต์ และจากภาคเกษตรกรรม (AGRICULTURAL WASTE &ENERGY CROPS) อีกประมาณ 760 เมกะวัตต์ เครื่องปั่นไฟสำหรับฟาร์มสุกร ฟาร์มไก่ ตัวอย่างของของเสียจากภาคอุตสาหกรรมเกษตรที่เป็นแหล่งผลิตก๊าซชีวภาพ อุตสาหกรรมผลิตแป้งมัน มีของเสียคือน้ำเสียและกากมัน อุตสาหกรรมผลิตน้ำมันปาล์มมีน้ำเสียและกากตะกอน อุตสาหกรรมผลิตเอทานอล มีน้ำเสีย มันเส้น โมลาสและกากมัน สำหรับภาคปศุสัตว์ที่น่าจะเป็นต้นแบบการผลิตไฟฟ้า คือฟาร์มเลี้ยงสุกร ที่มีฟาร์มเลี้ยงขนาดกลางและใหญ่อยู่ในหลายพื้นที่ มีการประมาณการจากฟาร์มสุกรที่มีอยู่ประมาณ 176 ฟาร์ม ที่มีสุกรเลี้ยงอยู่ประมาณ 3 ล้านตัว น้ำเสียและมูลสุกรจากฟาร์มดังกล่าวสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ประมาณ 10 เมกะวัตต์ ส่วนของภาคเกษตรกรรมการปลูกพืชที่นำมาผลิตโดยตรงและเศษพืชหลังการเก็บเกี่ยว ซึ่งมีศักยภาพสูงมาก เช่น ฟางข้าว ต้นและซังข้าวโพด ต้นข้าวฟ่าง ต้นหญ้าและวัชพืชต่างๆทั้งวัชพืชบนบก และวัชพืชน้ำเช่นผักตบชวาและธูปฤษี เป็นต้น เศษกิ่งไม้ที่ตัดแต่งในสวน ใบและทางปาล์มน้ำมัน ฯลฯ เศษต่างๆเหล่านี้หากนำมาพัฒนาเป็นก๊าซชีวภาพ คงจะสามารถผลิตไฟฟ้าได้ไม่น้อยกว่า 760 เมกะวัตต์ ตามเป้าหมาย และทางออกอีกแนวทางหนึ่งที่คิดว่ามีโอกาสขยายผลได้รวดเร็วคือ การผลิตก๊าซชีวภาพชุมชน ที่นำมาผลิตไฟฟ้าขนาด 500-1,000 กิโลวัตต์ หากเป็นเช่นนี้ความยั่งยืนด้านพลังงานที่เดินไปพร้อมกับการรักษ์สิ่งแวดล้อมก็จะเกิดขึ้นในประเทศไทยครับ ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ
เครื่องปั่นไฟ | พลังถ่านหิน
Coal mine power plant | เครื่องปั่นไฟ พลังถ่านหิน กระบวนการแปรรูปถ่านหิน(Coal gasification)ให้เป็นแก๊สเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องกำเนิดไฟฟ้า อีกหนึ่งพลังงานทางเลือกสามารถเปลี่ยนถ่านหินให้เป็นพลังงานสะอาด เป็นที่รู้กันดีกว่าน้ำมันจะหมดไปจากโลกนี้ในเวลาประมาณ50ปีข้างหน้า ส่วนถ่านหินนั้นยังมีให้เราใช้กันได้อีกอย่างน้อย 200ปี ถ่านหินสามารถเป็นพลังงานหลักที่มั่นคงให้กับเราได้ ปัจจุบันเครื่องปั่นไฟสามารถใช้เชื้อเพลิงจากแก๊สถ่านหินได้เป็นอย่างดีนับเป็นอนาคตที่สดใสด้านพลังงานอย่างแท้จริง ถ่านหิน พลังงานที่ยั่งยืน ประวัติความเป็นมาของถ่านหิน การนำถ่านหินมาใช้เป็นครั้งแรกเริ่มขึ้นเมื่อชาวอินเดียนอเมริกัน ซึ่งอาศัยในบริเวณอริโซนาในปัจจุบัน ได้ใช้ถ่านหินเพื่ออบเครื่องปั้นดินเผาที่ทำมาจากดิน ต่อมาผู้ตั้งถิ่นฐานชาวยุโรปได้ค้นพบถ่านหินในอเมริกาเหนือในช่วงกลางคริสตศักราช 1600 แม้จะมีการใช้ในปริมาณเพียงเล็กน้อยในช่วงแรก เนื่องจากในยุคนั้นยังนิยมใช้พลังงานน้ำและถ่านไม้ แต่ถ่านหินได้กลายมาเป็นปัจจัยสำคัญในช่วงปีคริสตศักราช 1800 ประชาชนเริ่มใช้ถ่านหินเพื่อผลิตสินค้าและเครื่องจักรกลไอน้ำ ส่งผลให้อเมริกากลายเป็นแหล่งพลังงานอันดับหนึ่ง จนกระทั่งความต้องการน้ำมันเข้ามาแทนที่ แต่อย่างไรก็ตามการนำถ่านหินมาใช้ประโยชน์จำเป็นต้องคำนึงถึงผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก เนื่องจากการใช้ถ่านหินส่งผลให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมาจำนวนมาก เช่น ควัน ฝุ่นละออง สุขภาพของชุมชน เป็นต้น จากสาเหตุดังกล่าวจึงได้มีการพัฒนาเทคโนโลยี การนำถ่านหินมาใช้โดยที่คำนึงถึงผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด ซึ่งทางออกหนึ่งของการนำถ่านหินมาใช้ คือ เทคโนโลยีถ่านหินสะอาดโดยการแปรรูปถ่านหิน (Coal Conversion) ให้เป็นแก๊สเชื้อเพลิง (Coal gasification) เทคโนโลยีการแปรรูปถ่านหินให้เป็นแก๊สเชื้อเพลิง เทคโนโลยีการแปรรูปถ่านหิน เทคโนโลยีการแปรรูปถ่านหินให้เป็นแก๊สเชื้อเพลิง (Coal gasification Technology) นั้นมีการพัฒนามาเป็นระยะเวลานานแล้ว โดยมีรายงานการทดลองเกี่ยวกับแก๊สซิฟิเคชั่นครั้งแรกตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 17 เป็นต้นมา รายงานระบุว่า โรงงานผลิตแก๊สเชื้อเพลิงแห่งแรก จากกระบวนแก๊สซิฟิเคชั่นได้สร้างขึ้นที่ประเทศอังกฤษเมื่อปี ค.ศ. 1812 โดยบริษัท London and Westminster Chartered Gas, Light and Coke โดยผลิตแก๊สที่เรียกกันในสมัยนั้นว่า “Town gas” หรือ “Water gas” ซึ่งหมายถึง แก๊สจากการทำปฏิกิริยาของถ่านหินกับไอน้ำ ในเครื่องแก๊สซิฟายเออร์ (Gasifier) การผลิตไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมกับกระบวนการผลิตแก๊สจากถ่านหิน กระบวนการแปรรูปถ่านหินเป็นแก๊สเชื้อเพลิง เป็นกระบวนการออกซิเดชั่นถ่านหินเพียงบางส่วน โดยอาศัยหลักการการเผาไหม้ในสภาวะจำกัดอากาศ ซึ่งโดยทั่วไปกระบวนการแก๊สซิฟิเคชั่น ประกอบด้วยปฏิกิริยาระหว่างคาร์บอนกับอากาศ ออกซิเจน ไอน้ำ หรือของผสมของสารดังกล่าวข้างต้น ที่อุณหภูมิสูงกว่า 700 องศาเซลเซียส กล่าวคือเมื่อถ่านหินที่มีคาร์บอนเป็นองค์ประกอบถูกเปลี่ยนไปเป็นแก๊ส ส่งผลให้สารไม่พึงประสงค์ต่างๆ เช่น สารประกอบซัลเฟอร์และเถ้า จะถูกกำจัดออกจากแก๊สผลิตภัณฑ์ได้ง่ายกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับกระบวนการเผาไหม้ ซึ่งมีปริมาณอากาศมาก กระบวนการแก๊สซิฟิเคชั่นต้องการความร้อนไปใช้ในการเกิดปฏิกิริยาต่างๆ โดยส่วนใหญ่ความร้อนนี้ได้จากการเผาไหม้บางส่วนของเชื้อเพลิงแข็งเอง โดยการป้อนอากาศหรือออกซิเจนเข้าไปในเตาปฏิกรณ์ โดยปกติอากาศที่ป้อนจะไม่เกินร้อยละ 35 ของปริมาณอากาศที่ต้องการทางทฤษฎี ดังนั้นแก๊สที่ได้จึงมีความเข้มข้นของผลิตภัณฑ์แก๊สจากกระบวนการสูง ซึ่งส่งผลให้กระบวนการแยกหรือทำความสะอาดแก๊สมีประสิทธิภาพสูงด้วย กระบวนการแก๊สซิฟิเคชั่นบางกระบวนการอาจใช้แหล่งความร้อนอื่นจากภายนอก ทำให้ลดการสูญเสียเชื้อเพลิงแข็งเนื่องจากการเผาไหม้ รวมทั้งสามารถเพิ่มคุณค่าทางความร้อนของผลิตภัณฑ์แก๊ส โดยการลดปริมาณไนโตรเจนจากอากาศที่ป้อน และคาร์บอนไดออกไซด์ที่ได้จากการเผาไหม้ ซึ่งแก๊สเหล่านี้ถ้าออกมาพร้อมกับผลิตภัณฑ์แก๊สในปริมาณมากแล้ว จะทำให้ค่าความร้อนต่อหน่วยปริมาตรของแก๊สลดลง โดยแก๊สผลิตภัณฑ์ หรือแก๊สสังเคราะห์ที่ได้สามารถนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้า ความร้อน หรือเป็นสารตั้งต้นในการสังเคราะห์เคมีภัณฑ์ต่างๆ เช่น แอมโมเนีย เมทานอล หรือก๊าซไฮโดรเจน รวมถึงเชื้อเพลิงเหลว เป็นต้น ที่มา : วารสารเครือข่ายพลังงานชีวภาพ ฉบับที่ 3/2553 กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน
กังหันลมไฟฟ้า | พลังงานสะอาด
กังหันลมผลิตไฟฟ้า พลังงานลม พลังงานสะอาดเพื่ออนาคตประเทศไทย เครื่องปั่นไฟพลังงานลม กังหันลม พลังงานลม เป็นพลังงานจากธรรมชาติที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ มนุษย์เราได้ใช้ประโยชน์จากพลังงานลมมานานหลายพันปี ในการอำนวยความสะดวกสบายแก่ชีวิต เช่น การแล่นเรือใบขนส่งสินค้า การหมุนกังหันวิดน้ำ การหมุนโม่หินบดเมล็ดพืชให้เป็นแป้ง ในปัจจุบันเราสามารถนำมาใช้ผลิตกระแสไฟฟ้า เนื่องจากพลังงานลมมีอยู่โดยทั่วไป ไม่ต้องซื้อ เป็นพลังงานที่สะอาด ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสภาพแวดล้อม และสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างไม่รู้จักหมดสิ้น “ กังหันลม ” เป็นอุปกรณ์ชนิดหนึ่งที่ถูกนำมาใช้้สกัดพลังงานจลน์ของกระแสลม และเปลี่ยนให้เป็นให้เป็นพลังงานกล จากนั้นจึงนำพลังงานกลมาใช้ประโยชน์ กล่าวคือ เมื่อกระแสลมพัดผ่านใบกังหัน จะเกิดการถ่ายทอดพลังงานจลน์ไปสู่ใบกังหัน ทำให้กังหันหมุนรอบแกน สามารถนำพลังงานจากการหมุนนี้ไปใช้งานได้ กังหันลมที่ใช้กันมากในประเทศไทยตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ได้แก่ กังหันลมแบบใบกังหันไม้ ใช้สำหรับฉุดระหัดวิดน้ำเข้านาข้าวบริเวณจังหวัดฉะเชิงเทรา กังหันลมใบเสื่อลำแพน ใช้ฉุดระหัดวิดน้ำเค็มเข้านาเกลือบริเวณ จังหวัดสมุทรสงคราม และกังหันลมแบบใบกังหันหลายใบ ทำด้วยแผ่นเหล็กใช้สำหรับสูบน้ำจากบ่อน้ำบาดาลขึ้นไปเก็บในถังกักเก็บ ส่วนการใช้กังหันลมเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้ายังอยู่ในระหว่างการทดสอบและพัฒนาอยู่ ชนิดของกังหันลม ปัจจุบันการพัฒนาเทคโนโลยีกังหันลมเพื่อใช้สำหรับผลิตไฟฟ้าได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง หลายประเทศทั่วโลกได้ให้ความสนใจ โดยเฉพาะในทวีปยุโรป เช่น ประเทศเดนมาร์ก กังหันลมที่ได้มีการพัฒนากันขึ้นมานั้นจะมีลักษณะและรูปร่างแตกต่างกันออกไป แต่ถ้าจำแนกตามลักษณะแนวแกนหมุนของกังหันจะได้ 2 แบบ คือ 1. กังหันลมแนวแกนนอน (Horizontal Axis Wind Turbine) เป็นกังหันลมที่มีแกนหมุนขนานกับทิศทางของลมโดยมีใบพัดเป็นตัวตั้งฉากรับแรงลม มีอุปกรณ์ควบคุมกังหันให้หันไปตามทิศทางของกระแสลม เรียกว่า หางเสือ และมีอุปกรณ์ป้องกันกังหันชำรุดเสียหายขณะเกิดลมพัดแรง เช่น ลมพายุและตั้งอยู่บนเสาที่แข็งแรง กังหันลมแบบแกนนอน ได้แก่ กังหันลมวินด์มิลล์ ( Windmills) กังหันลมใบเสื่อลำแพน นิยมใช้กับเครื่องฉุดน้ำ กังหันลมแบบกงล้อจักรยาน กังหันลมสำหรับผลิตไฟฟ้าแบบพรอบเพลเลอร์ (Propeller) 2. กังหันลมแนวแกนตั้ง (Vertical Axis Wind Turbine) เป็นกังหันลมที่มีแกนหมุนและใบพัดตั้งฉากกับการเคลื่อนที่ของลมในแนวราบ ซึ่งทำให้สามารถรับลมในแนวราบได้ทุกทิศทาง ใช้ได้ดีกับกระแสลมมีความเร็วต่ำ เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง เหมาะกับอาคารสูงในเมืองใหญ่ กังหันลมแบบแนวแกนนอนเป็นแบบที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย ส่วนมากออกแบบให้เป็นชนิดที่ขับใบกังหันด้วยแรงยก แต่อย่างไรก็ตาม กังหันลมแบบแนวแกนตั้ง ซึ่งได้รับการพัฒนามากในระยะหลังก็ได้รับความสนใจมากขึ้นเช่นกัน ทั้งนี้เนื่องจากข้อดีกว่าแบบแนวแกนนอนคือ ในแบบแนวแกนตั้งนั้นไม่ว่าลมจะเข้ามาทิศไหนก็ยังหมุนได้ โดยไม่ต้องมีอุปกรณ์ควบคุมให้กังหันหันหน้าเข้าหาลม นอกจากนี้แล้วแบบแนวแกนตั้งนั้น เครื่องกำเนิดไฟฟ้าและระบบการส่งกำลังวางไว้ใกล้พื้นดินมากกว่าแบบแกนนอน เวลาเกิดปัญหาแก้ไขง่ายกว่าแบบแกนนอนที่ติดอยู่บนหอคอยสูง ส่วนประกอบของระบบกังหันลมขนาดใหญ่สำหรับผลิตไฟฟ้า ส่วนประกอบสำคัญๆ ของระบบกังหันลมทั่วๆ ไปอาจแบ่งได้ดังนี้ ส่วนประกอบกังหันลมไฟฟ้า 1. ใบพัด เป็นตัวรับพลังลมและเปลี่ยนให้เป็นพลังงานกล ซึ่งยึดติดกับชุดแกนหมุนและส่งแรงจากแกนหมุนไปยังเพลาแกนหมุน 2. เพลาแกนหมุน ซึ่งรับแรงจากแกนหมุนใบพัด และส่งผ่านระบบกำลัง เพื่อหมุนและปั่นเครื่องกำเนิดไฟฟ้า 3. ห้องส่งกำลัง ซึ่งเป็นระบบปรับเปลี่ยนและควบคุมความเร็วในการหมุน ระหว่างเพลาแกนหมุนกับเพลาของเคริ่องกำเนิดไฟฟ้า 4. ห้องเครื่อง ซึ่งมีขนาดใหญ่และมีความสำคัญต่อกังหันลม ใช้บรรจุระบบต่างๆ ของกังหันลม เช่น ระบบเกียร์ เครื่องกำเนิดไฟฟ้า เบรก และระบบควบคุม 5. เครื่องกำเนิดไฟฟ้า ทำหน้าที่เปลี่ยนพลังงานกลเป็นพลังงานไฟฟ้า 6. ระบบควบคุมไฟฟ้า ซึ่งใช้ระบบคอมพิวเตอร์เป็นตัวควบคุมการทำงาน และจ่ายกระแสไฟฟ้าเข้าสู่ระบบ 7 . ระบบเบรค เป็นระบบกลไกเพื่อใช้ควบคุมการหยุดหมุนของใบพัดและเพลาแกนหมุนของกังหัน เมื่อได้รับความเร็วลม เกินความสามารถของกังหัน ที่จะรับได้ และในระหว่างการซ่อมบำรุงรักษา 8 . แกนคอหมุนรับทิศทางลม เป็นตัวควบคุมการหมุนห้องเครื่อง เพื่อให้ใบพัดรับทิศทางลมโดยระบบอิเลคทรอนิคส์ ที่เชื่อมต่อให้มีความสัมพันธ์ กับหางเสือรับทิศทางลมที่อยู่ด้านบนของเครื่อง 9 . เครื่องวัดความเร็วลมและทิศทางลม ซึ่งเชื่อมต่อสายสัญญาณเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อเป็นตัวชี้ขนาดของความเร็วและทิศทางของลม เพื่อที่คอมพิวเตอร์จะได้ควบคุมกลไกอื่นๆ ได้ถูกต้อง 10 . เสากังหันลม เป็นตัวแบกรับส่วนที่เป็นตัวเครื่องที่อยู่ข้างบน กังหันลม Wind Turbine พลังงานทดแทน กังหันลมกับการผลิตไฟฟ้า หลักการทำงานของกังหันลมผลิตไฟฟ้านั้น เมื่อมีลมพัดผ่านใบกังหัน พลังงานจลน์ที่เกิดจากลมจะ ทำให้ใบพัดของกังหันเกิดการหมุน และได้เป็นพลังงานกลออกมา พลังงานกลจากแกนหมุนของกังหันลมจะถูกเปลี่ยนรูปไปเป็นพลังงานไฟฟ้า โดยเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่เชื่อมต่ออยู่กับแกนหมุนของกังหันลม จ่ายกระแสไฟฟ้าผ่านระบบควบคุมไฟฟ้า และจ่ายกระแสไฟฟ้าเข้าสู่ระบบต่อไป โดยปริมาณไฟฟ้าที่ผลิตได้จะขึ้นอยู่กับความเร็วของลม ความยาวของใบพัด และสถานที่ติดตั้งกังหันลม การติดตั้งกังหันลมไฟฟ้า การประกอบกังหันลมสำหรับไฟฟ้า การติดตั้งกังหันลมแนวแกนตั้ง (Vertical Axis Wind Turbine) กังหันลมผลิตไฟฟ้าแนวแกนตั้ง (Vertical Axis Wind Turbine) 5kw กังหันลมกับการใช้งาน เนื่องจากความไม่สม่ำเสมอของความเร็วลมที่แปรผันตามธรรมชาติ และความต้องการพลังงานที่สม่ำเสมอเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานแล้ว จะต้องมีตัวกักเก็บพลังงานและใช้แหล่งพลังงานอื่นที่เชื่อถือได้เป็นแหล่งสำรอง หรือใช้ร่วมกับแหล่งพลังงานอื่น ตัวกักเก็บพลังงานมีอยู่หลายชนิด ส่วนมากขึ้นอยู่กับงานที่จะใช้เช่น ถ้าเป็นกังหันเพื่อผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมักนิยมใช้แบตเตอรี่เป็นตัวกักเก็บพลังงาน การใช้แหล่งพลังงานอื่นที่เป็นตัวหมุน ระบบนี้ปกติกังหันลมจะทำหน้าที่จ่ายพลังงานให้ตลอดเวลาที่มีความเร็วลมเพียงพอ หากความเร็วลมต่ำหรือลมสงบ แหล่งพลังงานชนิดอื่นจะทำหน้าที่จ่ายพลังงานทดแทน (ระบบนี้กังหันลมจ่ายพลังงานเป็นตัวหลักและแหล่งพลังงานส่วนอื่นเป็นแหล่งสำรอง ) การใช้ร่วมกับแหล่งพลังงานอื่น อาจเป็นเครื่องจักรดีเซล หรือพลังงานน้ำจากเขื่อน ฯลฯ ระบบนี้ปกติจะมีแหล่งพลังงานชนิดอื่นจ่ายพลังงานอยู่ก่อนแล้ว กังหันลมจะช่วยจ่ายพลังงานเมื่อมีความเร็วลมเพียงพอ ซึ่งในขณะเดียวกันก็จะลดการจ่ายพลังงานจากแหล่งพลังงานอื่น เช่น ลดการใช้น้ำมันดีเซลของเครื่องยนต์ดีเซล (ระบบนี้ แหล่งพลังงานอื่นจ่ายพลังงานเป็นหลัก ส่วนกังหันลมทำหน้าที่คอยเสริมพลังงานจากต้นพลังงานหลัก) ที่มา : การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ร่วมแบ่งปันความรู้ดีๆโดย : บจก. เอส.อี.เอ. พาวเวอร์ เจ็นท์
เครื่องปั่นไฟแนวทางรับมือน้ำท่วม
6 วิธีการเตรียมรับมือน้ำท่วมหรือภาวะฉุกเฉิน 1. หมั่นตรวจตราให้ไฟฟ้า แก็ส และน้ำประปา สามารถใช้งานได้ในภาวะฉุกเฉิน พระเอกตัวจริงคงหนีไม่พ้นเครื่องปั่นไฟ เนื่องจากไฟฟ้านับเป็นหัวใจของสังคมเมืองปัจจุบัน 2. มีการเตรียมการสำหรับผู้ที่เคลื่อนไหวลำบาก อากง อาม่า ปู่ย่า ตายาย ชวนท่านไปนอนเล่นต่างจังหวัดก่อนเลย 3. ควรมีโทรศัพท์บ้านแบบมีสายธรรมดาซักเครื่องหนึ่ง และจดเบอร์ติดต่อสำคัญไว้ด้วย สามารถช่วยเรื่องการติดต่อสื่อสารยามฉุกเฉินได้เป็นอย่างดี 4. ควรเติมน้ำมันให้เต็มถัง นานๆเติมทีป้องกันถังผุได้เป็นอย่างดี 5. ควรสำรองน้ำไว้ใช้ จะใส่โอ่ง ใส่อ่างอาบน้ำ ใส่ถัง ใส่อะไรก็ได้ ขอให้ใส่ใจก็พอ 6. เก็บทรัพย์สินที่มีค่า เอกสารสำคัญ รวมทั้งเตรียมตัวเผื่อการอพยพในกรณีจำเป็น ซื้อประกันน้ำท่วมได้ยิ่งดี ที่มา : Don’t Be Left in the Dark
7 แนวทางที่ซุนวูไม่ได้บอกแต่ SMEs ไทยควรรู้
7 แนวทางที่ซุนวูไม่ได้บอก แต่SMEsไทยควรจะรู้ 1. การเรียนรู้คู่แข่ง เมื่อเกิดคู่แข่งใหม่จากอาเซียน SMEs จำเป็นต้องศึกษาและเรียนรู้คู่แข่งเหล่านั้น เพื่อให้เกิดความพร้อมที่จะเผชิญหน้าในการแข่งขันได้ การวิเคราะห์ SWOT เพื่อให้รู้จักคู่แข่งจะช่วยให้SMEs นั้นๆ พร้อมรับกับการแข่งขันได้ ซึ่งนอกเหนือจากคู่แข่ง 9 ประเทศอาเซียนแล้ว ยังมีเพิ่มอีก 3 หรือ 6 ประเทศที่ต้องเรียนรู้ (ASEAN+3,+6) 2. เสริมสร้างศักยภาพด้านการผลิต ลดต้นทุนการผลิตด้วยการบริหารจัดการต้นทุน อย่างมีประสิทธิภาพ มีการนำเครื่องจักรและเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาใช้ในการผลิต ผลักดันการผลิตสินค้าให้มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงการแข่งขันด้านราคา 3. เร่งเสริมจุดแข็ง ลดจุดอ่อน บริษัทจำเป็นต้องพัฒนาจุดแข็งให้ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นและลดจุดอ่อนลงให้ได้มากที่สุด เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับคู่แข่งที่อาจเข้าสู่การแข่งขันได้ทุกเมื่อ 4. ผูกมัดใจลูกค้าในทุกรูปแบบ บริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมสนับสนุนหรือเคยผลิตส่งบริษัทแม่อาจถูกแย่งลูกค้าโดยคู่แข่งในประเทศอื่นที่ได้เปรียบมากกว่าในการเป็นฐานการผลิต ผู้ประกอบการที่เริ่มมีตราสินค้า(Brand)เป็นของตนเอง ควรทำการศึกษาพฤติกรรมตลาดในเชิงพาณิชย์อยู่เสมอเพื่อที่จะผลิตสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ตลอดจนเกิดความชำนาญในทักษะการผลิตยิ่งขึ้น 5. ต้องคิด “ทำอย่างไรให้เขาอยู่กับเรา” เพื่อเป็นการป้องกันการถูกแย่งแรงงานฝีมือ SMEs ต่างๆ ควรมองหากลยุทธ์ด้านการจัดการทรัพยากรมนุษย์ที่มีประสิทธิภาพที่จะช่วยดึงดูดให้พนักงานที่มีความสามารถคงอยู่กับบริษัทไว้ให้ได้มากที่สุด 6. สร้างความเข้มแข็ง แก้ปัญหากลุ่มอุตสาหกรรมด้วยการรวมกลุ่ม Supply Chain Management เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีและองค์ความรู้ซึ่งกันและกันในกลุ่มอุตสาหกรรม เช่น การนำเอาการปฏิบัติที่ดีที่สุด (Best Practice) ของแต่ละโรงงานมาใช้เพื่อลดต้นทุน แก้ไขเรื่องค่าแรงสูงแต่ไม่มีประสิทธิภาพ และร่วมกันบุกตลาดต่างประเทศ เป็นต้น 7. ลดความเสี่ยงด้วยการกระจายคำสั่งซื้อ SMEs ควรมีการกระจายคำสั่งซื้อจากแหล่งอื่นๆเพิ่มมากขึ้นเพื่อลดความเสี่ยงจากการที่ผู้ว่าจ้างรายใด รายหนึ่งจะลดหรือยกเลิกคำสั่งซื้อรวมไปถึงการสร้างเครือข่ายพันธมิตรทั้งภาคธุรกิจไทยและต่างประเทศให้กว้างขวาง เพื่อเพิ่มโอกาสในการร่วมทุนในการผลิตและการส่งออก
SMEs ไทย
ในปี 2558 ประเทศไทยและประเทศสมาชิกของอาเซียนจะรวมตัวกันเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community : AEC) อย่างสมบูรณ์ ผ่านแผนประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC Blueprint) ที่ประกอบด้วย การเป็นตลาดเดียวและ ฐานการผลิตร่วมกัน การเพิ่มศักยภาพการแข่งขันและการพัฒนาที่เท่าเทียม ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ประกอบการเอสเอ็มอี จำนวนกว่า 2.9ล้านกิจการ คิดเป็นร้อยละ 99.6 ของจำนวนวิสาหกิจทั้งหมด มีการจ้างงานกว่า 10.5 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 77.8 ของการจ้างงานรวมทั้งประเทศ สรา้งมลูค่า่เพิ่มทางเศรษฐกจิ หรือ GDP SMEsถึง 3.75 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 37.1 ของมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจของประเทศ ในแต่ละปีจะมีผู้ประกอบเพิ่มขึ้นทุกปี นับแต่นี้ไปภาคธุรกิจเอสเอ็มอีจำเป็นต้องรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่จำเป็นเกี่ยวกับเรื่องประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอย่างทั่วถึง เพราะว่าประเทศสมาชิกอาเซียนอื่นๆ ได้มีการเตรียมความพร้อมในการเป็น AEC ด้วยการขยายการค้า ขยายการลงทุนในประเทศสมาชิกอาเซียนด้วยกันและประเทศคู่เจรจากับอาเซี่ยน ดังนั้นผู้ประกอบการ SMEs ไทย จำเป็นที่จะต้องพัฒนาศักยภาพอย่างเร่งด่วน และเตรียมรองรับกับการเปิดตลาดการค้าเสรี ต้องมีการผลิตสินค้าให้ตรงกับมาตรฐานสากล และพร้อมที่จะรับข้อตกลงทางการค้าที่เปลี่ยนแปลงชนิดพลิกหน้ามือเป็นหลังมือการทำธุรกิจในกลุ่มประเทศอาเซียนจะเป็นเสมือนหนึ่งเป็นประเทศเดียวกัน การแข่งขันด้านราคา ด้านมาตรฐาน ด้านคุณภาพย่อมเกิดขึ้น ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่เอสเอ็มอีไทยต้องตื่นตัว และร่วมมือกันอย่างมีสติและปัญญา
ความรู้เบื้องต้นเครื่องยนต์ Turbines
Gas Turbines หลายๆคน คงจะเคยไปสนามบินกันมานะครับ ถ้าหากใครไม่เคยไป อย่างน้อยก็คงจะเคยเห็นเครื่องบินอยู่ในรูป หรืออยู่ในโทรทัศน์กันมาบ้าง สำหรับเจ้าเครื่องบินนี่เพื่อนๆก็คงจะเคยเห็นเครื่องอะไรสักอย่างอยู่ใต้ปีกทั้งสองข้าง จะมาก จะน้อย จะเล็ก หรือจะใหญ่ ก็แล้วแต่ว่าเครื่องบินจะเป็นแบบใด แล้วใช้เพื่อการอะไรนะครับ สำหรับที่ผมเล่ามาทั้งหมดนี้ ก็จะนำไปสู่การกล่าวถึงเครื่องยนต์ของเครื่องบินครับ เครื่องยนต์ที่มีลักษณะคล้ายๆโอ่งนี้จะมีชื่อเรียกว่า Gas Turbines หรือจะแปลเป็นภาษาบ้านเราก็คือ เครื่องยนต์กังหันก๊าซครับ Gas Turbine คืออะไร? Gas Turbine เป็นเครื่องยนต์ที่ออกแบบมาเพื่อให้เปลี่ยนพลังงานในรูปของเชื้อเพลิงให้อยู่ในรูปของพลังงานที่ใช้ประโยชน์ได้ เช่น พลังงานจากเพลา หรือแรงขับเคลื่อนความเร็วสูงของเครื่องบินเจ็ท Gas Turbine จะประกอบด้วยส่วนผลิตก๊าซร้อนและส่วนเปลี่ยนก๊าซร้อนเป็นพลังงาน คือเครื่องอัดอากาศ, ห้องเผาไหม้, และตัวกังหันก๊าซ กำลังงานจากกังหันก๊าซบางส่วนจะใช้ขับเคลื่อนอัดอากาศ ทำให้อากาศมีอุณหภูมิสูงขึ้นเมื่อเผาไหม้แล้วจะได้ก๊าซร้อนที่มีความดันสูงวิ่งผ่านกังหันออกไป ส่วนประกอบของ Gas Turbine Component Turbines engine Gas Turbine ทำงานได้อย่างไร? Gas Turbine มีอุปกรณ์พื้นฐานในการทำงานดังนี้ คอมเพรสเซอร์(Compressor) ทำหน้าที่อัดอากาศที่ไหลเข้ามา เพื่อให้เกิดความดันสูง และป้อนเข้าสู่ห้องเผาไหม้ ห้องเผาไหม้ (Combustion) ทำหน้าที่เผาไหม้เชื้อเพลิง เพื่อเพิ่มความเร็วและความดันของก๊าซ กังหันเทอร์ไบน์(Gas Turbine) เปลี่ยนพลังงานของก๊าซที่ได้จากห้องเผาไหม้ไปเป็นการหมุน ก๊าซความดันสูงจากคอมเพรสเซอร์ไหลเข้าห้องเผาไหม้ หัวฉีดเชื้อเพลิงภายในห้องทำหน้าที่ฉีดเชื้อเพลิง เช่น โพรเพน และก๊าซธรรมชาติเป็นต้น เนื่องจากแก๊สที่ไหลเข้ามามีความเร็วมากกว่า 100 ไมล์ต่อชั่วโมง ภายในห้องเผาไหม้จะใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่า กระป๋องเปลวไฟ Combustion Area ภาพตัดครึ่งของกระป๋องเปลวไฟ Turbine Stage หัวฉีดอยู่ทางขวา ทำหน้าที่ฉีดเชื้อเพลิงอย่างต่อเนื่อง ก๊าซจะวิ่งผ่านรูเล็กๆ และเกิดการระเบิด กลายเป็นก๊าซความเร็วสูงวิ่งออกไปทางซ้าย ทางซ้ายของห้องเผาไหม้ เป็นส่วนของกังหัน ในรูปภาพทางซ้ายมีเทอร์ไบน์อยู่ 2 ส่วน ส่วนแรกใช้ในการขับคอมเพรสเซอร์ ซึ่งเพลาของเทอร์ไบน์ส่วนนี้ต่อกับคอมเพรสเซอร์เป็นเพลาอันเดียวกัน ส่วนที่สองของเทอร์ไบน์ใช้ในการขับใบพัดของเครื่องเฮลิคอปเตอร์ เพลาสองส่วนนี้ไม่ติดกัน แต่ว่ารวมแกนเดียวกัน ใช้ลูกปืนช่วยแยกการเคลื่อนที่ได้ ชนิดของ Gas Turbine Gas Turbine แบ่งออกเป็น 3 ชนิด คือ เครื่องยนต์ turbojet engine : เครื่องยนต์ Turbojet ให้แรงขับ (thrust) ด้วยการ เร่งอัตราความเร็วของ มวลอากาศ ทั้งหมดที่ผ่านเครื่องยนต์ เนื่องจาก ความเร็วของ มวลอากาศ ที่เป่าออกมา เพื่อให้ได้แรงขับ (thrust) , ระบบกังหันของเครื่องยนต์ Jet ออกแบบมาเพื่อให้รับแรงจากกระแส ลมร้อน หรือไอเสียเพียงเพื่อให้พอกับการไปหมุน compressor และ อุปกรณ์อื่นๆ แรงผลักทั้งหมด (100% of thrust ) เกิดจาก มวลของอากาศที่เป่าออกมา (ก๊าซไอเสีย) Turbojet เครื่องยนต์ turboprop : เครื่องยนต์ Turboprop ให้แรงขับ ด้วยการเปลี่ยน พลังงานจากกระแสมวลของก๊าซ ไปเป็น กำลัง หรือ พลังงานกล เพื่อที่จะ เอาไปหมุน อุปกรณ์ หมุน Compressor และ ใบพัดเครื่องบิน Shaft หรือเพลา ของกังหัน Turbine จะยึดติดกับใบพัด โดยผ่านระบบเฟืองทดรอบ ประมาณ 90% ของแรงผลักทั้งหมด มาจากใบพัด และเพียงไม่ถึง 10% ที่มาจาก กระแสมวลของกาซร้อน หรือ ลมเป่าของท่อไอเสีย Turboprop เครื่องยนต์ Turbofan : เครื่องยนต์ Turbofan Fan จะอยู่ข้างหน้า และมีโครงสร้างหุ้มอยู่ เรียกว่า fan duct จะถูกขับเคลื่อน หรือ หมุน ด้วย ความเร็วเท่ากับ compressor (ยกเว้น free turbine) ถ้าเป็น Free turbine ก็จะมีความเร็วเท่ากับ Turbine ชุดหลังสุดต่อจากชุดของ Turbine ที่ขับหรือหมุน Compressor มวลอากาศจาก Fan จะถูกผลักออกมาแยก จาก มวลของอากาศ ที่ ผ่านภายใน เครื่องยนต์ หรืออาจจะถูกนำไปใช้ ผสมกับ มวลอากาศที่ผ่าน ภายในเครื่องยนต์ ที่ตอนท้ายของเครื่องยนต์ พลังงานหรือแรงผลัก (Thrust) ประมาณ มากกว่า 75% มาจากมวลของอากาศจาก Fan และน้อยกว่า 25 % มาจาก กระแสลมร้อนที่เป่าออกมา ( Exhaust Gas) Turbofan การประยุกต์ใช้ Gas Turbine 1. โรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซ มักเป็นเครื่องปั่นไฟสำหรับจ่ายไฟสำรอง ( stand by ) และช่วยเสริมการผลิต เมื่อเกิดความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด ( peak load ) มีกำลังการผลิตตั้งแต่ 1 – 60 เมกกะวัตต์ นอกจากจะใช้เป็นเครื่องต้อนกำลังในการผลิตไฟฟ้าแล้ว เครื่องกังหันก๊าซยังใช้งานอย่างอื่นอีก เช่นใช้เป็นเครื่องต้นกำลังขับปั๊มขนาดใหญ่ Gas Turbines Power Plant 2. ใช้เป็นเครื่องยนต์โดยตรงเช่น เครื่องยนต์เครื่องบิน เรือ หรือแม้แต้มอเตอไซด์(Y2K) Plane Turbine engine Ship Turbine motorcycle Y2k ที่มา : pirun.ku.ac.th เรียบเรียงโดย : S.E.A. Power Gent Co., Ltd.
ประวัติเครื่องปั่นไฟ | Lister Petter
ประวัติ Lister Petter ผู้ผลิตเครื่องปั่นไฟ(เครื่องกำเนิดไฟฟ้า)จากประเทศอังกฤษ Lister Petter มีฐานอยู่ที่เมือง Gloucestershire ในอังกฤษ มีการดำเนินงานในประเทศสหรัฐอเมริกา, ฝรั่งเศส, แอฟริกาใต้และอินเดีย ช่วยให้ Lister Petter แพร่กระจายสินไปได้ทั่วโลกและทำให้มั่นใจว่าคุณจะไม่ไกลเกินไปจากความเชี่ยวชาญของเราเมื่อใดก็ตามที่คุณต้องการเครื่องยนต์ดีเซลหรือเทคโนโลยีเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ในส่วนนี้จะช่วยให้คุณข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับ บริษัท บริษัท ของเราและประวัติศาสตร์เครื่องยนต์รายละเอียดของสิ่งพิมพ์ที่มีอยู่และข้อมูลเกี่ยวกับอาชีพที่ Lister Petter Lister Petter มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและมีชื่อเสียงโด่งดังในเครื่องมืออุตสาหกรรม จากรากของเรากว่า 150 ปีที่ผ่านมาถึงตอนนี้การผลิตเครื่องยนต์ดีเซลที่ทันสมัยและเครื่องยนต์ก๊าซขับเคลื่อนสำหรับฟาร์มไปยังสถานีสื่อสารเราได้กำหนดมาตรฐานอย่างต่อเนื่องในการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่มีคุณภาพและความน่าเชื่อถือ เครื่องยนต์ดีเซล Lister Petter กับหลายล้านของเครื่องยนต์ของเราสร้างช่วงของการใช้งานและสถานที่ที่คุณจะเห็นผลิตภัณฑ์ Petter Lister ทั่วโลกได้อย่างน่าทึ่ง ที่เป็นหัวใจของความสำเร็จของเราอย่างต่อเนื่องมุ่งเน้นเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของเราผลิตที่เกินความคาดหวังของลูกค้าของเราให้ความสำคัญกับการออกแบบที่ยืดหยุ่นและการดำเนินงานที่เชื่อถือได้เป็น ประวัติโดยย่อของ Lister Petter 1867 บริษัท RA Lister ก่อตั้งโดยโรเบิร์ตแอชตัน Lister 1893 James B Petter & Sons ก่อตั้งขึ้น 1895 เครื่องยนต์น้ำมันที่ทำโดย Petters 1910 Petters จำกัด ก่อตั้งขึ้น 1929 เครื่องยนต์ดีเซลเป็นครั้งแรกที่ผลิตโดย RA Lister ใน Dursley 1986 listers RA และ Petters จำกัด รวมถึงรูปแบบ Lister-Petter จำกัด 2004/2005 Lister Petter มีการเติบโตเป็นประวัติการณ์ทั้งการค้าและการลงทุน ที่มา : lister-petter.com ผู้แต่ง : S.E.A. Power Gent Co., Ltd.
ประวัติเครื่องยนต์ Cummins
เครื่องยนต์ CumminsCummins Engine Company ก่อตั้งขึ้นที่เมืองColumbus, Indiana,USA ในปี 1919 Cummins เป็นหนึ่งในบริษัทแรกๆที่ได้เห็นถึงศักยภาพในเชิงพาณิชย์ของเทคโนโลยีเครื่องยนต์ ซึ่งได้รับการพัฒนามาก่อนหน้านี้สองทศวรรษโดยรูดอล์ฟดีเซล หลังจากทศวรรษของการก่อตั้งในปี 1933, บริษัทคัมมิ่นได้ปล่อยเครื่องยนต์รุ่น H, เครื่องยนต์ดีเซลที่มีประสิทธิภาพเหมาะสำหรับการขนส่ง นับเป็นเครื่องยนต์ Cummins รุ่นประสบความสำเร็จสูงไปทั่วโลก ด้วยการเน้นคุณภาพของสินค้าเป็นหลัก เสนอการรับประกัน 100,000 ไมล์เป็นเจ้าแรกสร้างความประทับใจให้แก่โลกอุตสาหกรรมในเวลานั้น เครื่องปั่นไฟ Cummins ปัจจุบันคัมมิ่นมีสินค้ามากว่า 5,000 รายการ มีบริการใน 197 ประเทศทั่วโลก เราสามารถพบผลิตภัณฑ์ Cummins ได้ในทุกวงการอุตสาหกรรมเช่น ใช้เป็นเครื่องยนต์เรือ หรือ เครื่องปั่นไฟ Cummins ได้รับความนิยมอย่างสูงในประเทศอุตสาหกรรมใหม่ โดยเฉพาะยักษ์ใหญ่อย่าง จีน อินเดีย บราซิล ประวัติเครื่องยนต์ Cummins ในประเทศไทย จากการสืบค้นเบื่องต้นพบว่าน่าจะติดมากับหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้า จีอี (GE) รุ่น GEK หมายเลข 4001-4050 เครื่องยนต์คัมมินส์ (Cummins) KTA-38L 660แรงม้า จำนวนสองเครื่อง น้ำหนักเปล่า 70.178 ตัน น้ำหนักพร้อมใช้ 75 ตัน น้ำหนักกดเพลา 12.5 ตัน ความเร็วสูงสุด 103 กิโลเมตรต่อชั่วโมง การจัดวางล้อแบบ Co-Co ผลิตโดย เจเนอรัล อิเล็คทริค สหรัฐอเมริกา นำเข้ามาใช้งานเมื่อปี พ.ศ. 2507 (หมายเลข 4001 – 4040) และ พ.ศ. 2509 (หมายเลข 4041 – 4050) ข้อมูลอ้างอิง : wikipedia.org ผู้แต่ง : S.E.A. Power Gent Co., Ltd.
เครื่องปั่นไฟ | ดีเซลหมุนเร็ว VS ดีเซลหมุนช้า
จะเลือกเครื่องปั่นไฟอย่างไรดีระหว่างเครื่อง | ดีเซลหมุนเร็ว VS ดีเซลหมุนช้า 1. เครื่องปั่นไฟดีเซลหมุนช้า : มีความเร็วรอบเครื่องยนต์อยู่ที่ประมาณ 300-1,000รอบต่อนาที ข้อดี : คุณสมบัติเด่นๆของเครื่องปั่นไฟประเภทนี้คือ แข็งแรง ทนทาน สึกหรอช้า ถึกมากถึงมากที่สุด ทนกว่าชนิดรอบหมุนเร็ว 3-4เท่า เพราะถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานหนักโดยเฉพาะ มีค่าบำรุงรักษาต่ำการบำรุงรักษาง่าย ด้วยรอบที่ต่ำทำให้มีคุณสมบัติขั้นเทพคือการประหยัดน้ำมันกว่า30% บวกคุณสมบัติโคตรเทพอีกรายการคือสามารถใช้น้ำมันผสมระหว่างน้ำมันดีเซลกับน้ำมันเตาได้อีก โอ้ว!!จ็อจช์ เหมาะกับใช้เป็นเครื่องปั่นไฟหลัก มักพบตามโรงไฟฟ้า โรงงานอุตสาหกรรม รีสอตบนเกาะแก่งต่างๆที่ไฟฟ้าเข้าไม่ถึง ยี่ห้อเครื่องปั่นไฟชนิดนี้ได้แก่ LISTER BLACKSTONE, ENGLISH ELECTRIC (RUSTON), MWM ข้อเสีย : เนื่องจากถูกออกแบบมาเพื่อความทนทานเป็นหลักจึงต้องใช้วัสดุอย่างดีและเวลาอย่างสูงในการผลิต ทำให้ ราคาเครื่องปั่นไฟ ชนิดนี้ย่อมสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว ขั้นตอนการเปิดใช้งานก็ยุ่งยากไม่เหมาะจะใช้เป็นเครื่องปั่นไฟสำรอง ข้อเสียข้อสุดท้ายน่าจะเป็นหน้าตาเครื่องที่ดูอนุรักษ์นิยมคล้ายๆหน้าพระเอกหนังเกาหลี 2. เครื่องปั่นไฟดีเซลหมุนเร็ว : มีความเร็วรอบเครื่องยนต์อยู่ที่ประมาณ 1,000 รอบต่อนาทีขึ้นไป ข้อดี : เครื่องปั่นไฟดีเซลหมุนเร็วเป็นเครื่องปั่นไฟพบมากที่สุด ตัวเครื่องยนต์หาได้ง่ายราคาถูกใช้งานได้หลากหลายคล่องตัว มีให้เลือกหลายขนาดและยี่ห้อตามความต้องการ การใช้งานก็ง่ายไม่ยุ่งยากซับซ้อนเปิดปุ๊บติดปั๊บมักใช้ร่วมกับ ATS (auto transfer swith)  เพื่อเป็นเครื่องปั่นไฟสำรอง(Standby) ในกรณีที่ไฟดับเครื่องปั่นไฟจะจ่ายไฟสำรองแทนโดยอัตโนมัติ และเมื่อไฟหลวงมาเครื่องก็สามารถดับได้เองอีกต่างหาก เหมาะกับโรงงาน โรงพยาบาล โรงแรม บุคคลทั่วไปนับเป็น เครื่องปั่นไฟสำหรับธุรกิจSME  โดยแท้ หน้าตาเครื่องก็ดูดีเหมือนมิสเกาหลี มียี่ห้อที่คุ้นเคยได้แก่ Cummins, Perkons, Volvo, Mitsubishi, Nison, Hino, Isuzu, Denyo ข้อเสีย : มีอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงและค่าบำรุงรักษาที่สูงกว่า รวมถึงอายุการใช้งานที่น้อยกว่าเมื่อเทียบกับเครื่องปั่นไฟชนิดรอบหมุนช้า ไม่เหมาะที่จะใช้เป็นเครื่องปั่นไฟหลักในการจ่ายไฟ สรุป : สรุปเอาเองละกันว่าเหมาะกับการใช้เครื่องปั่นไฟชนิดใด ข้อมูลอ้างอิง : ดีเซลวิศวกรรม ผู้แต่ง : S.E.A. Power Gent Co., Ltd.